Home »
Uncategories »
ชิมช้อปใช้ เฟส2 เพิ่ม 3ล้านสิทธิ์สำหรับคนไม่เคยลงทะเบียน
ชิมช้อปใช้ เฟส2 เพิ่ม 3ล้านสิทธิ์สำหรับคนไม่เคยลงทะเบียน
วันที่
22 ต.ค. 62 นายอุตตม สาวนายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เผยว่า
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ ปี 2562 ระยะที่ 2
โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้เกิดความต่อเนื่องในการสนับสนุนการขยายตัวของเศรษฐกิจต่อจากการดำเนินมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ
ปี 2562 ที่ผ่านมา โดยระยะที่ 2 ประกอบด้วย 4 มาตรการ ดังนี้
1.
มาตรการส่งเสริมการบริโภคภายในประเทศ "ชิมช้อปใช้"มาตรการ "ชิมช้อปใช้"
ที่ผ่านมาประสบความสำเร็จเป็นอย่างดี โดยมีผู้ได้รับสิทธิ์ทั่วประเทศครบ 10
ล้านคนแล้ว
ซึ่งกระทรวงการคลังได้เห็นประโยชน์ทางเศรษฐกิจจากมาตรการดังกล่าว
เนื่องจากก่อให้เกิดผลทวีคูณต่อระบบเศรษฐกิจ (Multiple Effects)
กระทรวงการคลังจึงได้ออกแบบมาตรการส่งเสริมการบริโภคในประเทศ "ชิมช้อปใช้"
หรือ "ชิมช้อปใช้ เฟส 2" เพื่อกระตุ้นการใช้จ่ายในประเทศผ่าน g-Wallet
โดยเฉพาะกลุ่มเป้าหมายที่มีศักยภาพในการเดินทางและใช้จ่าย
ซึ่งจะทำให้มีการกระจายการใช้จ่ายไปยังเศรษฐกิจฐานราก
ให้ชุมชนได้รับประโยชน์มากขึ้น
และจะมีการปรับปรุงเงื่อนไขเพื่ออำนวยความสะดวกแก่ประชาชน "ชิมช้อปใช้ เฟส
2" จะเปิดให้ผู้ที่ไม่เคยได้รับสิทธิ์ลงทะเบียนเพิ่มจำนวน 3 ล้านคน
ซึ่งนอกจากจะได้รับวงเงินสนับสนุน 1,000 บาท สำหรับการใช้จ่ายผ่าน g-Wallet
1 และเงินชดเชยร้อยละ 15 ของยอดใช้จ่ายไม่เกิน 30,000 บาท
จากเงินของประชาชนเองผ่าน g-Wallet 2 (เงินชดเชยไม่เกิน 4,500 บาท)
เช่นเดียวกับ "ชิมช้อปใช้" เดิม
แล้วยังจะได้รับสิทธิ์เงินชดเชยร้อยละ 20 ของยอดใช้จ่ายในส่วนที่เกิน
30,000 บาท แต่ไม่เกิน 50,000 บาท (เงินชดเชยไม่เกิน 4,000 บาท)
ซึ่งสิทธิ์นี้จะขยายให้แก่ผู้ได้รับสิทธิ์ 10
ล้านคนแรกที่ไม่ถูกตัดสิทธิ์ด้วย
สำหรับการใช้จ่ายผ่าน g-Wallet 2
สามารถเติมเงินได้ง่ายและสะดวก โดยนอกจากจะเติมเงินผ่านการสแกน QR Code
ของทุกธนาคาร หรือกรอกตัวเลข g-Wallet 15 หลักผ่าน mobile banking
ของธนาคารต่าง ๆ แล้ว ยังสามารถเติมเงินเข้า g-Wallet 2 ผ่านเครื่อง ATM
ได้อีกด้วย
นอกจากนี้
กระทรวงการคลังจะปรับเวลาเริ่มลงทะเบียนใหม่ โดยแบ่งเป็น 2 รอบ รอบละ
500,000 ราย รอบแรกเริ่มลงทะเบียนเวลา 06.00 น. และรอบที่ 2
เริ่มลงทะเบียนเวลา 18.00 น.
เพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่ประชาชนผู้สนใจลงทะเบียน
ซึ่งจะเริ่มเปิดรับลงทะเบียนตั้งแต่วันที่ 24 ตุลาคม 2562
จำนวนวันละไม่เกิน 1 ล้านคน โดยมาตรการ "ชิมช้อปใช้ เฟส 2" นี้
ประชาชนสามารถใช้ได้ถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2562
และร้านค้าสามารถสมัครเข้าร่วมมาตรการได้ถึง 31 ธันวาคม 2562 เช่นกัน
ทั้งนี้
กรมสรรพากรสนับสนุนนโยบายเรื่อง Digital Economy ดังนั้น
จึงไม่มีนโยบายมุ่งตรวจสอบกลุ่มผู้ใช้ e-Payment อยู่แล้ว ในทางตรงกันข้าม
กรมสรรพากรเห็นว่า ผู้ใช้ e-Payment จะถูกจัดอยู่ในกลุ่มผู้ประกอบการที่ดี
ซึ่งจะไม่ถูกตรวจสอบและได้รับบริการที่ดี เช่น การคืนภาษีเร็ว
จากกรมสรรพากรด้วย
2.
มาตรการลดภาระให้กับผู้ซื้อที่อยู่อาศัย (มาตรการลดภาระฯ)
เพื่อสนับสนุนและบรรเทาภาระให้แก่ประชาชนที่ต้องการมีที่อยู่อาศัยเป็นของตนเอง
เหมาะสมกับศักยภาพของประชาชนแต่ละกลุ่ม
โดยรัฐบาลจะลดค่าธรรมเนียมจดทะเบียนการโอนและค่าจดทะเบียนการจำนอง ดังนี้
2.1 ลดค่าธรรมเนียมจดทะเบียนการโอนจากเดิมร้อยละ 2 เหลือร้อยละ 0.01
2.2 ลดค่าจดทะเบียนการจำนองอสังหาริมทรัพย์จากเดิมร้อยละ 1 เหลือร้อยละ 0.01
ทั้งนี้
เฉพาะการซื้อขายที่อยู่อาศัยที่ดินพร้อมอาคารหรือห้องชุด ในราคาไม่เกิน 3
ล้านบาทต่อหน่วย และการจดทะเบียนการโอน และการจดจำนองอสังหาริมทรัพย์
ซึ่งเป็นที่อยู่อาศัยต้องดำเนินการในคราวเดียวกัน
โดยมีระยะเวลานับตั้งแต่วันที่ประกาศกระทรวงมหาดไทยมีผลบังคับใช้ถึงวันที่
24 ธันวามคม 2563
3.
มาตรการสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยของธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.)
(มาตรการสินเชื่อฯ)
นอกจากการสนับสนุนค่าธรรมเนียมจดทะเบียนการโอนและค่าจดทะเบียนการจำนองแล้ว
ธอส.
จะสนับสนุนสินเชื่อที่อยู่อาศัยให้แก่ประชาชนทั่วไปที่มีความต้องการมีที่อยู่อาศัยเป็นของตนเองในราคาซื้อขายไม่เกิน
3 ล้านบาทต่อหน่วย
โดยการให้อัตราดอกเบี้ยเงินกู้ราคาพิเศษและเงื่อนไขผ่อนปรน
สำหรับมาตรการสินเชื่อจะเริ่มตั้งแต่วันนี้ (22 ต.ค.2562) จนถึงวันที่ 24
ธ.ค.2563 โดยมีวงเงินสินเชื่อทั้งหมด 50,000 ล้านบาท
อัตราดอกเบี้ยคงที่ร้อยละ 2.5 ในช่วง 3 ปีแรก
มาตรการลดภาระฯ
และมาตรการสินเชื่อฯ มุ่งเน้นกลุ่มเป้าหมายผู้มีรายได้น้อยถึงปานกลาง
กลุ่มคนเริ่มทำงานใหม่ที่กำลังก่อร่างสร้างตัว
รวมถึงกลุ่มผู้สูงอายุที่มีกำลังซื้อ เพื่อให้บุตรหลานหรือทายาท
โดยต้องเป็นการซื้ออยู่อาศัยประเภท บ้านเดี่ยว บ้านแฝด บ้านแถว
อาคารพาณิชย์ (เพื่อการอยู่อาศัย) และห้องชุด
ทั้งนี้
ต้องเป็นที่อยู่อาศัยสร้างเสร็จพร้อมอยู่ที่ไม่เคยผ่านการครอบครองโดยบุคคลอื่นมาก่อนการกำหนดราคาซื้อขายไม่เกิน
3 ล้านบาทต่อหน่วยนั้น เนื่องจากเป็นระดับราคาที่อยู่อาศัยที่เป็น
ที่ต้องการของกลุ่มเป้าหมาย โดยที่อยู่อาศัยสร้างเสร็จพร้อมอยู่ ณ
เดือนตุลาคม 2562 ที่ระดับราคาไม่เกิน 3 ล้านบาท มีอยู่ประมาณ 34,731 หน่วย
คิดเป็นร้อยละ 57 ของที่อยู่อาศัยสร้างเสร็จทั้งหมด นอกจากนี้ เพื่อให้
ธอส.
ซึ่งเป็นสถาบันการเงินเฉพาะกิจของรัฐเป็นผู้นำตลาดในการลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้
ทำให้ธนาคารพาณิชย์อื่น ๆ ลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ตาม ดังนั้น
คาดว่ามาตรการนี้จะช่วยเหลือให้ผู้บริโภคหรือประชาชนให้ได้รับประโยชน์และสามารถเข้าถึงการมีที่อยู่อาศัยเป็นของตนเองได้ง่ายขึ้น
4.มาตรการเร่งรัดการเบิกจ่ายค่าใช้จ่ายด้านการฝึกอบรม สัมมนา
ประจำปีงบประมาณ 2562 ไปพลางก่อน (Front Load)
เพื่อให้มีเม็ดเงินสำหรับค่าใช้จ่ายด้านการฝึกอบรม สัมมนา ประจำปีงบประมาณ
2562 ไปพลางก่อน ลงสู่ระบบเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่อง
โดยหน่วยรับงบประมาณเร่งรัดเบิกจ่ายค่าใช้จ่ายด้านการฝึกอบรมสัมมนา
ประจำปีงบประมาณ 2562 ไปพลางก่อน สำหรับวงเงินนั้น
ได้รับการจัดสรรจากสำนักงบประมาณ
นับว่าเป็นข่าวดี สำหรับผู้ที่เคยได้รับสิทธิ์
และผู้ที่อาจจะผิดหวังจากการรอลงทะเบียนในรอบที่ 1
ซึ่งใกล้จะเปิดรับลงทะเบียนเฟส 2 กันแล้ว เตรียมตัวกันให้พร้อมด้วยนะคะ
เรียบเรียงโดย : thaihitz.com