
แพทย์แนะ 10 อาหารหากินง่าย แถมป้องกันโรคที่เป็น
อาหารหลากหลายชนิดที่เราเลือกทาน
รู้หรือไม่ว่าคุณประโยชน์ที่เราได้รับนั้นส่งผลต่อร่างกายของเราอย่างไร
ดีต่อสุขภาพหรือไม่? หากกินเข้าไปมากๆจะเกิดอะไรขึ้น
ในวันนี้เราได้มีอาหารใกล้ตัว
หากินได้ง่ายมาฝากเพื่อนๆทุกคนกันวิธีการที่ดีคือควรวางแผนในการเสริมสร้างสุขภาพผมและผิวหนัง
ด้วยสารอาหาร แร่ธาตุ และกรดไขมัน
รวมไปถึงสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยป้องกันร่างกายของคุณจากสารพัดความเครียดรอบตัวเรา
1. แคนตาลูป
ดอกเตอร์ Zeichner กล่าวว่า
ผลไม้ตระกูลเมลอนหวานอร่อยนี้ อุดมไปด้วยเบต้าแคโรทีนหรือวิตามินเอ
ที่ช่วยควบคุมการเจริญเติบโตของเซลส์ผิวที่หนังศีรษะและไขผิวหนังที่ผิวหนังชั้นนอก
โดยจะยับยั้งไม่ให้รูขุมขนอุดตันและผิวลอก
2. อะโวคาโด
ดอกเตอร์
Bowe กล่าวว่า อะโวคาโดเป็นผลไม้ที่มีประโยชน์และสรรพคุณมากมาย
รวมไปถึงมีกรดโอเลอิก(oleic acid) และกรดไขมันโอเมกา 9 สูง
ซึ่งช่วยให้ผิวคงความชุ่มชื้นและเนียนนุ่ม
3. วอลนัต
ดอกเตอร์
Lipman กล่าวว่า กรดไขมันโอเมก้า 3
(ที่พบในน้ำมันธรรมชาติซึ่งจะช่วยให้ผมสุขภาพดี ไม่แห้ง) และวิตามินอี
(ช่วยซ่อมแซมฟื้นฟูและกระชับรูขุมขน)
เป็นเคล็ดลับเบื้องหลังผมสวยเงางามและแข็งแรง โดยทั้งกรดไขมันโอเมก้า 3
และวิตามินสามารถพบได้ในถั่ววอลนัต ควรรับประทานประมาณ 30 กรัมต่อวัน
ยิ่งไปกว่านั้น วอลนัตนั้นอุดมไปด้วยทองแดง
ซึ่งจะช่วยให้สีผมของคุณดูสุขภาพดี
ยังมีงานวิจัยระบุว่าการขาดแร่ธาตุอาจเป็นปัจจัยหนึ่งของการทำให้ผมหงอกก่อนวัยอีกด้วย
4. ไข่
เล็บมือ(และเล็บเท้า)ของคุณมีโครงสร้างมาจากโปรตีน
ดังนั้นหากคุณขาดโปรตีนก็จะทำให้เล็บของคุณไม่แข็งแรง ดอกเตอร์ Frank
Lipman ผู้อำนวยการ Eleven-Eleven Wellness Center ณ กรุงนิวยอร์ก กล่าวว่า
เคล็ดลับที่จะทำให้เล็บมือและเล็บเท้าของคุณสุขภาพดีอยู่เสมอคือ ‘ไข่’
ซึ่งเป็นแหล่งสารอาหารอย่างไบโอติน
หนึ่งในสารอาหารกลุ่มวิตามินบีที่ช่วยสร้างกรดอะมิโน
ซึ่งเป็นโครงสร้างหนึ่งของโปรตีน
5. คะน้า
ผักคะน้ามีสารอาหารมากมาย
ซึ่งรวมไปถึงวิตามินเค และธาตุเหล็กเป็นจำนวนมาก ดอกเตอร์ Howard Murad
รองศาสตราจารย์คณะแพทยศาสตร์แห่ง UCLA อธิบายว่า
“การควบคุมอาหารอาจทำให้ขาดธาตุเหล็กได้
ซึ่งจะทำให้ผิวของคุณดูไม่มีชีวิตชีวา และจะทำให้ผิวหนังมีจ้ำ
รอยช้ำได้ง่าย” เพื่อให้ได้ประโยชน์สูงสุดคือควรทานผักที่สุกแล้ว
อย่าทานแบบดิบ
6. ล็อบสเตอร์
สัตว์น้ำประเภทมีเปลือกจะมีธาตุสังกะสีและคุณสมบัติยับยั้งอาการอักเสบที่จะช่วยดูแลผิวที่ไม่สม่ำเสมอ
ซึ่งรวมถึงสิวด้วย ดอกเตอร์ Whitney Bowe
ผู้ช่วยศาสตราจารย์ด้านผิวหนังวิทยาที่ Icahn School of Medicine at Mount
Sinai กล่าวว่า “สังกะสีจะช่วยเร่งการปรับสภาพเซลส์ผิวให้เร็วขึ้น
จึงเป็นสาเหตุว่าทำไมถึงพบแร่ธาตุนี้ในยารักษาสิว” อีกทั้งแท้จริงแล้ว
มีงานวิจัยระบุว่าคนที่มีสิวจะมีแร่ธาตุสังกะสีน้อยกว่าคนที่มีผิวพรรณดี
7. บลูเบอร์รี่
การทานบลูเบอร์รี่ช่วยให้ผิวดูสดใสได้
เนื่องจากบลูเบอร์รี่มีวิตามินซีและวิตามินอี
(ทั้งสองเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยกันทำให้ผิวขาวใส สีผิวสม่ำเสมอกัน
และป้องกันไม่ให้สารต้านอนุมูลอิสระถูกทำลาย) เช่นเดียวกับ อาร์บูทิน
(arbutins) ที่ดอกเตอร์ Zeichner กล่าวว่าคือ
“สารไฮโดรควิโนน(hydroquinone) เวอร์ชั่นธรรมชาติ ที่ทำให้ผิวขาวกระจ่างใส”
8. ทับทิม
ผลไม้มหัศจรรย์ที่ประกอบไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระมากมาย
อย่างเช่น วิตามินซี ที่ช่วยป้องกันริ้วรอยและความแห้งกร้าน
โดยให้ความชุ่มชื้นแก่สภาพผิว งานวิจัยในวารสาร American Journal of
Clinical Nutrition ระบุว่า ปริมาณวิตามินซีที่บริโภคยิ่งสูงเท่าไร
ก็ยิ่งช่วยลดความแห้งกร้านและริ้วรอยในวัยกลางคนของผู้หญิงได้
อีกทั้งทับทิมยังมีสารสำคัญอย่างแอนโทไซยานิน (anthocyanins:
ซึ่งช่วยเพิ่มการผลิตคอลลาเจน ทำให้ผิวดูเต่งตึง) และกรดเอลลาจิก (ellagic
acid: สารเคมีธรรมชาติที่ช่วยลดผิวที่อักเสบจาก UV ทำร้าย)
9. แตงโม
ผลไม้โปรดในช่วงฤดูร้อนอย่างแตงโมนั้นเต็มไปด้วยไลโคปีน
ผู้เชี่ยวชาญโภชนาการ ดอกเตอร์ Keri Glassman ผู้ก่อตั้ง
NutritiousLife.com กล่าวว่า
“สารต้านอนุมูลอิสระนี้พบได้ในผักและผลไม้สีแดง อย่างแตงโมและมะเขือเทศ
ซึ่งช่วยขจัดเซลล์ผิวที่ถูก UV ทำร้าย”
นักวิจัยยังเชื่อว่าแตงโมมีสารพฤกษเคมีมากกว่ามะเขือเทศสดถึง 40%
ซึ่งมีค่าเท่ากับ SPF 3 ช่วยเพิ่มการป้องกันไม่ให้ผิวหนังไหม้จากการโดนแดด
10. กาแฟ
การดื่มกาแฟสักแก้วในตอนเช้าไม่เพียงแต่ช่วยเริ่มวันดีๆของคุณ
แต่กาแฟนั้นมีส่วนผสมของสารออกฤทธิ์ทางชีวภาพที่ช่วยยับยั้งผิวหนังของคุณจากการเป็นเนื้องอก
จากรายงานล่าสุดของวารสาร Journal of the National Cancer Institute
มีนักวิจัยพบว่าคนที่ดื่มกาแฟมีแนวโน้มที่จะเป็นโรคนี้น้อยลง
และคนที่ดื่มกาแฟวันละ 4 แก้วทุกวัน มีความเสี่ยงน้อยลงถึง 20%
ที่จะเป็นโรคร้ายแรงได้
ขอบคุณข้อมูลจาก : chillpainai.com