อย่าคาดหวังอะไรมากจากเด็ก ๆ
ต่อให้คุณชุบเลี้ยงใครไว้ดูแลคุณยามแก่เฒ่า เขาก็ต้องวุ่นวายกับการงานและภาระผูกพันต่าง ๆ เกินกว่าจะเวลามาช่วยเหลือดูแลอะไรคุณได้มากนัก คนอายุเกิน 50 อย่างคุณต้องเลิกเอาสุขภาพไปแลกกับความร่ำรวยได้แล้วมีเงินเท่าไรก็ซื้อสุขภาพคืนมาไม่ได้
ดังนั้น..ตราบใดที่คุณยังมีข้าวปลาอาหารกินอย่างเพียงพอ มีเงินพอใช้สอยได้ทุกวัน เพียงเท่านี้ก็ดีเหลือหลายแล้ว อายุเท่านี้แล้ว คุณควรอยู่อย่างเป็นสุข ทุกบ้านต่างก็มีปัญหาของตนเอง อย่ามัวไปคิดเปรียบเทียบ แก่งแย่ง แข่งดีกัน ไม่ว่าชื่อเสียง ฐานะในสังคม หรือความก้าวหน้าของเด็ก ๆ ฯลฯ
สิ่งที่ควรจะแข่งกันจริง ๆ นั้นคือ แข่งกันมีความสุข มีสุขภาพดี และอายุยืนนาน ส่วนอะไรที่เราเปลี่ยนมันไม่ได้ ก็อย่าไปฝังอกฝังใจให้ป่วยการและทำลายสุขภาพตัวเองเลย อายุป่านนี้แล้วก็ยังเปลี่ยนมันไม่ได้เลย
หลัง 50 แล้วอย่างนี้ คุณต้องค้นหาหนทางของคุณเองที่จะสร้างชีวิตที่เป็นอยู่ดี ๆ และสุขสดใสขึ้นมาให้ได้ ตราบใดที่มันทำให้คุณอารมณ์ดี คิดถึงแต่สิ่งที่ทำให้ทำอะไรก็สุขสนุกกับมันอยู่ทุกวัน นั่นก็หมายความว่าคุณได้ผ่านวันเวลาอย่างเป็นสุขแล้ว
ทุกวันที่ผ่านไป คุณจะสูญเสียไป ๑ วัน แต่ถ้ามันผ่านไปอย่างเป็นสุข วันนั้นคือกำไรชัด ๆ เลย จิตใจที่ดีจะช่วยรักษาโรคภัยได้ ถ้าจิตใจเป็นสุขโรคก็จะหายเร็วขึ้น แต่ถ้าจิตใจทั้งดีทั้งเป็นสุขด้วยแล้วล่ะก็ ความเจ็บป่วยจะไม่มีทางมาแผ้วพานได้เลย
ด้วยอารมณ์ที่ดีแจ่มใสอยู่เป็นนิจ ออกกำลังกายให้เพียงพอ อยู่กลางแจ้งบ่อย ๆ กินอาหารให้ครบหมู่ ได้วิตามินและแร่ธาตุอย่างเพียงพอ เพียงเท่านี้ก็เชื่อได้แน่นอนว่า ชีวิตที่เป็นสุข อีก 30 หรือ 40 ปี จะเป็นของคุณแน่นอน
เหนือสิ่งอื่นใด...คุณต้องรู้จักบ่มเพาะและเก็บเกี่ยวความสุขดี ๆ จากการได้อยู่ ได้เที่ยว ได้คุยกับเพื่อน ๆ เพราะเขาเหล่านี้จะช่วยให้คุณรู้สึกเยาว์วัยและมีความหมายอยู่เสมอ ขาดพวกเขาเมื่อใด..คุณจะต้องรู้สึกสูญเสียอย่างแน่นอน
ขอบรรดาสิ่งดีที่สุดจงบังเกิดแก่คุณ โปรดเผยแพร่จดหมายน้อยนี้ให้เพื่อนๆที่เกิน 50 ไปแล้ว และคนอื่น ๆ ที่จะต้องเกิน 50 ในวันใดวันหนึ่งข้างหน้าด้วย...^^
ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก Lek Saowaros และ http://www.choosewithcareclub.com/index.php?mo=3&art=42284592
ต่อให้คุณชุบเลี้ยงใครไว้ดูแลคุณยามแก่เฒ่า เขาก็ต้องวุ่นวายกับการงานและภาระผูกพันต่าง ๆ เกินกว่าจะเวลามาช่วยเหลือดูแลอะไรคุณได้มากนัก คนอายุเกิน 50 อย่างคุณต้องเลิกเอาสุขภาพไปแลกกับความร่ำรวยได้แล้วมีเงินเท่าไรก็ซื้อสุขภาพคืนมาไม่ได้
ดังนั้น..ตราบใดที่คุณยังมีข้าวปลาอาหารกินอย่างเพียงพอ มีเงินพอใช้สอยได้ทุกวัน เพียงเท่านี้ก็ดีเหลือหลายแล้ว อายุเท่านี้แล้ว คุณควรอยู่อย่างเป็นสุข ทุกบ้านต่างก็มีปัญหาของตนเอง อย่ามัวไปคิดเปรียบเทียบ แก่งแย่ง แข่งดีกัน ไม่ว่าชื่อเสียง ฐานะในสังคม หรือความก้าวหน้าของเด็ก ๆ ฯลฯ
สิ่งที่ควรจะแข่งกันจริง ๆ นั้นคือ แข่งกันมีความสุข มีสุขภาพดี และอายุยืนนาน ส่วนอะไรที่เราเปลี่ยนมันไม่ได้ ก็อย่าไปฝังอกฝังใจให้ป่วยการและทำลายสุขภาพตัวเองเลย อายุป่านนี้แล้วก็ยังเปลี่ยนมันไม่ได้เลย
หลัง 50 แล้วอย่างนี้ คุณต้องค้นหาหนทางของคุณเองที่จะสร้างชีวิตที่เป็นอยู่ดี ๆ และสุขสดใสขึ้นมาให้ได้ ตราบใดที่มันทำให้คุณอารมณ์ดี คิดถึงแต่สิ่งที่ทำให้ทำอะไรก็สุขสนุกกับมันอยู่ทุกวัน นั่นก็หมายความว่าคุณได้ผ่านวันเวลาอย่างเป็นสุขแล้ว
ทุกวันที่ผ่านไป คุณจะสูญเสียไป ๑ วัน แต่ถ้ามันผ่านไปอย่างเป็นสุข วันนั้นคือกำไรชัด ๆ เลย จิตใจที่ดีจะช่วยรักษาโรคภัยได้ ถ้าจิตใจเป็นสุขโรคก็จะหายเร็วขึ้น แต่ถ้าจิตใจทั้งดีทั้งเป็นสุขด้วยแล้วล่ะก็ ความเจ็บป่วยจะไม่มีทางมาแผ้วพานได้เลย
ด้วยอารมณ์ที่ดีแจ่มใสอยู่เป็นนิจ ออกกำลังกายให้เพียงพอ อยู่กลางแจ้งบ่อย ๆ กินอาหารให้ครบหมู่ ได้วิตามินและแร่ธาตุอย่างเพียงพอ เพียงเท่านี้ก็เชื่อได้แน่นอนว่า ชีวิตที่เป็นสุข อีก 30 หรือ 40 ปี จะเป็นของคุณแน่นอน
เหนือสิ่งอื่นใด...คุณต้องรู้จักบ่มเพาะและเก็บเกี่ยวความสุขดี ๆ จากการได้อยู่ ได้เที่ยว ได้คุยกับเพื่อน ๆ เพราะเขาเหล่านี้จะช่วยให้คุณรู้สึกเยาว์วัยและมีความหมายอยู่เสมอ ขาดพวกเขาเมื่อใด..คุณจะต้องรู้สึกสูญเสียอย่างแน่นอน
ขอบรรดาสิ่งดีที่สุดจงบังเกิดแก่คุณ โปรดเผยแพร่จดหมายน้อยนี้ให้เพื่อนๆที่เกิน 50 ไปแล้ว และคนอื่น ๆ ที่จะต้องเกิน 50 ในวันใดวันหนึ่งข้างหน้าด้วย...^^
ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก Lek Saowaros และ http://www.choosewithcareclub.com/index.php?mo=3&art=42284592