ผู้ขับรถยนต์เกียร์ออโต้ อ่านหน่อยแค่ 5 นาที เพื่อชีวิตและทรัพย์สินของท่านเอง
บทความนี้อยากส่งต่อ
ให้ทุกคนที่ขับรถโดย
เฉพาะรถเกียร์ออโต้
และสุภาพสตรีอ่าน
กรุณาอ่านให้จบครับ ….เพื่อความปลอดภัยและมีสติ…
เป็นวันที่ผมมิอาจลืมได้
ในชีวิตนี้ …
เวลาประมาณ 11.00 น.
ผมได้ขับรถขึ้นทางด่วนพิเศษจาก ถนนจันทน์
มุ่งหน้าไปถนนแจ้งวัฒนะ
เพื่อที่จะไปทำบุญบริจาคสิ่งของ ที่บ้านเด็กอ่อนพญาไท ติด ถ.แจ้งวัฒนะ- ปากเกร็ด
ขณะขับรถไปได้ประมาณ 20 นาที
และมองไปที่คันเร่ง
เห็นหน้าจอ ที่ 140 กม.
ผมก็ได้ถอนคันเร่งและแตะเบรก 2 ครั้งเพื่อลดความเร็ว
แต่ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง
ผมได้ลองใหม่อีก 3 ครั้ง คราวนี้กระชากเบรกมือด้วยอีก 2 ครั้ง
เบรกเท้าอีกก็เหมือนเดิมไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง
ลองเกียร์ว่าง 1 ครั้ง
ความเร็วอยู่ที่ 130 กม/ชม.
ผมได้พยายามกดโทรศัพท์
ไปหาเพื่อนสนิทที่นัดแนะไปทำบุญด้วยกัน
เพื่อนแนะ…
ให้ลดเกียร์ จาก D เป็น 2
และ L ความเร็วลดจาก 130/ชม.
เป็น 120- 110 ซึ่งลดลงได้เพียงเท่านี้
ความพยายามในการชะลอรถ
มากกว่า 10 นาที
และลองเกียร์ว่าง 1 ครั้ง ไม่มีผลเลย
ผมคิดว่าคงอาจจบชีวิตบนการทางพิเศษแล้ว
เพื่อนได้แนะอีกครั้ง
และสมาธิเริ่มรวบรวม
ความพยายามประมาณครั้งที่ 7
โยกเกียร์มาที่ช่อง N
เป็นเกียร์ว่างแล้วดับเครื่อง
คราวนี้รถได้ชะลอความเร็วลงมาก
ผมได้ประคองขับรถต่อไปอีกประมาณ 5 กม.. กว่ารถจะหยุดได้
ซึ่งผมก็สามารถหยุดชิดขอบทางได้ เหมือนรอดตายพ้นนรก
ผมรีบโทรบอกที่บ้านเพราะตอนแรกนึกว่าคงไม่ได้โทรสั่งเสียหรือสั่งลา
ผมได้เดินอีกประมาณ 100 เมตรไปบอกเจ้าหน้าที่เก็บเงินที่ ด่านเก็บเงินใกล้แจ้งวัฒนะเพื่อขอความช่วยเหลือ รอประมาณ 10 นาที ก็มาช่วย
ผลปรากฏว่าสาเหตุที่คันเร่งค้างเพราะกล่องสัญญาณกันขโมยซึ่งหนักประมาณเกือบครึ่งกิโลไปทับอยู่ที่ ก้านของคันเร่งและเกิดการล็อคขึ้นได้
สอบถามกับอู่รถแล้วอู่แจ้งว่า…มีโอกาสเป็นไปได้ที่คันเร่งค้างจากสาเหตุดังกล่าว
เนื่องจากกล่องสัญญาณกันขโมยจะติดตั้งอยู่เหนือคันเร่งติดตัวถังรถสิ่งที่ควรกระทำคือ
ตั้งสติแล้วโยกเกียร์มาที่ช่อง N เป็นเกียร์ว่าง
จากนั้นปิดสวิทช์กุญแจดับเครื่องยนต์และเปิดไฟฉุกเฉิน
รถก็ยังวิ่งอยู่แล้วค่อย ๆ เหยียบเบรคเป็นระยะ ๆความเร็วรถจะค่อยลดลง จนสามารถจอดรถได้
การปิดสวิทช์กูญแจรถยนต์ดับเครื่องเลยในขณะที่เกียร์รถไม่อยู่ที่ N รถก็ยังวิ่งอยู่เครื่องยนต์เและระบบเกียร์จะเสียหายมากกว่าที่อยู่ช่อง N ครับ….
*ขอเพิ่มเติมให้อีกหน่อยครับ ถ้าวิธีนี้ใช้ได้จริงดับเครื่องเฉย ๆ นะครับ
อย่าดึงกุญแจออกจากรูกุญแจเดี๋ยวพวงมาลัยล็อคจะยิ่งแย่เข้าไปอีก
เพราะถ้าดับเครื่องโดยที่กุญแจยังเสียบอยู่ก็จะยังบังคับเลี้ยวได้พวงมาลัยจะไม่ล็อค
และจะสามารถเปลี่ยนเลนเพื่อหลบรถคันหน้าได้
ได้จากไลน์ของเพื่อนๆที่ส่งมาให้ และ
แนะนำให้ส่งต่อเพื่อเป็นบุญกุศลก็ยัง(ดี) อย่าเก็บเอาไว้คนเดียว
ขอขอบคุณบทความดีๆจาก:โปรโมชั่น โตโยต้าจุใจ และ http://news24.jdevcloud.com
บทความนี้อยากส่งต่อ
ให้ทุกคนที่ขับรถโดย
เฉพาะรถเกียร์ออโต้
และสุภาพสตรีอ่าน
กรุณาอ่านให้จบครับ ….เพื่อความปลอดภัยและมีสติ…
เป็นวันที่ผมมิอาจลืมได้
ในชีวิตนี้ …
เวลาประมาณ 11.00 น.
ผมได้ขับรถขึ้นทางด่วนพิเศษจาก ถนนจันทน์
มุ่งหน้าไปถนนแจ้งวัฒนะ
เพื่อที่จะไปทำบุญบริจาคสิ่งของ ที่บ้านเด็กอ่อนพญาไท ติด ถ.แจ้งวัฒนะ- ปากเกร็ด
ขณะขับรถไปได้ประมาณ 20 นาที
และมองไปที่คันเร่ง
เห็นหน้าจอ ที่ 140 กม.
ผมก็ได้ถอนคันเร่งและแตะเบรก 2 ครั้งเพื่อลดความเร็ว
แต่ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง
ผมได้ลองใหม่อีก 3 ครั้ง คราวนี้กระชากเบรกมือด้วยอีก 2 ครั้ง
เบรกเท้าอีกก็เหมือนเดิมไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง
ลองเกียร์ว่าง 1 ครั้ง
ความเร็วอยู่ที่ 130 กม/ชม.
ผมได้พยายามกดโทรศัพท์
ไปหาเพื่อนสนิทที่นัดแนะไปทำบุญด้วยกัน
เพื่อนแนะ…
ให้ลดเกียร์ จาก D เป็น 2
และ L ความเร็วลดจาก 130/ชม.
เป็น 120- 110 ซึ่งลดลงได้เพียงเท่านี้
ความพยายามในการชะลอรถ
มากกว่า 10 นาที
และลองเกียร์ว่าง 1 ครั้ง ไม่มีผลเลย
ผมคิดว่าคงอาจจบชีวิตบนการทางพิเศษแล้ว
เพื่อนได้แนะอีกครั้ง
และสมาธิเริ่มรวบรวม
ความพยายามประมาณครั้งที่ 7
โยกเกียร์มาที่ช่อง N
เป็นเกียร์ว่างแล้วดับเครื่อง
คราวนี้รถได้ชะลอความเร็วลงมาก
ผมได้ประคองขับรถต่อไปอีกประมาณ 5 กม.. กว่ารถจะหยุดได้
ซึ่งผมก็สามารถหยุดชิดขอบทางได้ เหมือนรอดตายพ้นนรก
ผมรีบโทรบอกที่บ้านเพราะตอนแรกนึกว่าคงไม่ได้โทรสั่งเสียหรือสั่งลา
ผมได้เดินอีกประมาณ 100 เมตรไปบอกเจ้าหน้าที่เก็บเงินที่ ด่านเก็บเงินใกล้แจ้งวัฒนะเพื่อขอความช่วยเหลือ รอประมาณ 10 นาที ก็มาช่วย
ผลปรากฏว่าสาเหตุที่คันเร่งค้างเพราะกล่องสัญญาณกันขโมยซึ่งหนักประมาณเกือบครึ่งกิโลไปทับอยู่ที่ ก้านของคันเร่งและเกิดการล็อคขึ้นได้
สอบถามกับอู่รถแล้วอู่แจ้งว่า…มีโอกาสเป็นไปได้ที่คันเร่งค้างจากสาเหตุดังกล่าว
เนื่องจากกล่องสัญญาณกันขโมยจะติดตั้งอยู่เหนือคันเร่งติดตัวถังรถสิ่งที่ควรกระทำคือ
ตั้งสติแล้วโยกเกียร์มาที่ช่อง N เป็นเกียร์ว่าง
จากนั้นปิดสวิทช์กุญแจดับเครื่องยนต์และเปิดไฟฉุกเฉิน
รถก็ยังวิ่งอยู่แล้วค่อย ๆ เหยียบเบรคเป็นระยะ ๆความเร็วรถจะค่อยลดลง จนสามารถจอดรถได้
การปิดสวิทช์กูญแจรถยนต์ดับเครื่องเลยในขณะที่เกียร์รถไม่อยู่ที่ N รถก็ยังวิ่งอยู่เครื่องยนต์เและระบบเกียร์จะเสียหายมากกว่าที่อยู่ช่อง N ครับ….
*ขอเพิ่มเติมให้อีกหน่อยครับ ถ้าวิธีนี้ใช้ได้จริงดับเครื่องเฉย ๆ นะครับ
อย่าดึงกุญแจออกจากรูกุญแจเดี๋ยวพวงมาลัยล็อคจะยิ่งแย่เข้าไปอีก
เพราะถ้าดับเครื่องโดยที่กุญแจยังเสียบอยู่ก็จะยังบังคับเลี้ยวได้พวงมาลัยจะไม่ล็อค
และจะสามารถเปลี่ยนเลนเพื่อหลบรถคันหน้าได้
ได้จากไลน์ของเพื่อนๆที่ส่งมาให้ และ
แนะนำให้ส่งต่อเพื่อเป็นบุญกุศลก็ยัง(ดี) อย่าเก็บเอาไว้คนเดียว
ขอขอบคุณบทความดีๆจาก:โปรโมชั่น โตโยต้าจุใจ และ http://news24.jdevcloud.com