อันตรายอาการ “หนาวใน” ที่ผู้หญิงหลายๆคนมองข้ามมาตลอด

อันตรายอาการ “หนาวใน” ที่ผู้หญิงหลายๆคนมองข้ามมาตลอด

หากว่าคุณเป็นคนหนึ่งที่หนาวง่ายเกินไป หรือที่เรียกว่า ขี้หนาว แม้จะอยู่ในสถานที่มีคนอื่นอยู่ด้วย ในอุณหภูมิเท่ากัน ก็รู้สึกหนาวมากกว่าใคร บางครั้งจนทนไม่ไหว หนาวเหน็บไปถึงกระดูก เกิดจากสาเหตุอะไร เป็นอาการป่วยหรือเปล่า หรือเป็นอะไรกันแน่ แล้วต้องรักษาอย่างไร

อาการหนาวจากสาเหตุ

หนาวสั่นในหญิงหลังคลอด

หลังคลอดฮอร์โมนโปรเจสเตอโรนจะลดลง และกลไกของร่างกายจะกำจัดน้ำออกด้วย ส่งผลให้ร่างกายมีภาวะขาดน้ำ และเกิดการเปลี่ยนแปลงอุณหภูมิในร่างกาย เมื่อร่างกายขาดน้ำมาก จะมีไข้และทำให้เกิดอาการหนาวสั่นตามมาได้

เลือดจาง เลือดน้อย

ด้วยภาวะที่ร่างกายขาดธาตุเหล็ก ซึ่งเป็นองค์ประกอบสำคัญของเม็ดเลือดแดง มีหน้าที่ช่วยขนส่งออกซิเจนเข้าสู่เซลล์เม็ดเลือดแดง และนำพาความร้อนและสารอาหารที่สำคัญเข้าสู่กระบวนการทำงานของเซลล์ทุกเซลล์ในร่างกาย นี่จึงเป็นเหตุผลที่ว่า หากขาดธาตุเหล็กไป การทำงานดังกล่าวไม่เต็มประสิทธิภาพ ความอบอุ่นในร่างกายก็ลดน้อยลงไปด้วย

ผอมมากเกินไป

น้ำหนักที่ต่ำกว่ามาตรฐาน อาจส่งผลให้ร่างกายไม่สามารถสร้างคามอบอุ่นได้อย่างเพียงพอ ความร้อนของระบบเผาผลาญน้อยลงจากการทานอาหารน้อย อีกทั้งในคนผอมมากๆ ร่างกายขาดไขมันที่จำเป็นต่อการให้ความอบอุ่นแก่ร่างกาย

ต่อมไทรอยด์ผิดปกติ

อาการหนาวเป็นพักๆ ร่วมด้วยผมเริ่มบาง ผิวแห้งมากขึ้น อาการอ่อนเพลีย อาจเข้าข่ายภาวะผิดปกติของต่อมไทรอยด์ ส่งผลให้ระบบเผาผลาญทำงานช้าลง ความร้อนในร่างกายจึงลดน้อยลงไปด้วย

ระบบไหลเวียนเลือดไม่ดี

โดยเฉพาะในคนที่มักจะมือเย็นเท้าเย็นบ่อยๆ อาจเกิดจากระบบไหลเวียนเลือดในร่างกายของคุณทำงานไม่ปกติ ทำให้ไม่สามารถไหลเวียนเลือดได้สะดวก ไม่ทั่วทั้งร่างกาย หรืออาจจะมีภาวะของโรคหลอดเลือดอุดตันตามตำแหน่งต่างๆ

โรคเรย์นอยด์ (Raynaud’s Disease)

ซึ่งเป็นสาเหตุให้เส้นเลือดบริเวณมือตีบ ส่งผลให้การไหลเวียนของเลือดไปหล่อเลี้ยงส่วนต่างๆ ไม่ดี ทำให้เกิดอาการชาบริเวณนิ้วมือ ร่วมกับอาการนิ้วมือนิ้วเท้าเย็นตามมาด้วย

พักผ่อนไม่เพียงพอ

ยิ่งคุณนอนหลับได้ไม่เพียงพอ และยาวนานเท่าใด ยิ่งสะสมให้สมองรวมไปถึงระบบการเผาผลาญของร่างกายทำงานผิดปกติไปมากเท่านั้น ซึ่งก็นับเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้ร่างกายอ่อนแอลง รู้สึกหนาวได้ง่ายๆ

ดื่มน้ำน้อยเกินไป

น้ำเป็นองค์ประกอบสำคัญที่ช่วยควบคุมอุณหภูมิร่างกายให้เป็นปกติ เมื่อร่างกายไม่ได้รับน้ำอย่างเพียงพออาจเกิดได้ทั้งภาวะแปรปรวน ร้อนจัดและเย็นจัด และการขาดน้ำที่จำเป็นต่อระบบเผาผลาญ

ร่างกายขาดวิตามินบี 12

วิตามินบี 12 มีหน้าที่สำคัญเหมือนธาตุเหล็ก ในเรื่องช่วยลำเลียงออกซิเจนเข้าสู่เซลล์เม็ดเลือดแดง ซึ่งถ้าหลอดเลือดแดงทำงานได้ไม่เต็มประสิทธิภาพ การไหลเวียนของเลือดก็จะติดขัด จึงทำให้ร่างกายหนาวเย็นได้ง่ายๆ

ผู้หญิงมักหนาวได้ง่ายมากกว่าผู้ชาย

ในเรื่องของฮอร์โมน และกลไกร่างกายของผู้หญิง ต้องคงความสมดุลของการไหลเวียนเลือดในสมอง และหัวใจอย่างเต็มที่ การไหลเวียนเลือดในส่วนประสาทมือและเท้าจึงถูกลดความสำคัญลงไป เป็นเหตุให้รู้สึกหนาวเย็นที่มือและเท้าเป็นพิเศษ ซึ่งเป็นจุดศูนย์รวมของเส้นประสาท

สัญญาณโรคเบาหวาน

ด้วยอาการปลายประสาทอักเสบที่อาจเกิดได้ในผู้ป่วยโรคเบาหวาน จะส่งผลให้มือและเท้าของคุณไวต่อสิ่งเร้าและการสัมผัส โดยเฉพาะอากาศหนาว ร่วมด้วยอาการปวดปัสสาวะบ่อยๆ อ่อนเพลีย และรู้สึกคอแห้งถี่ขึ้น สัญญาณเหล่านี้อาจเป็นอาการเริ่มต้นของโรคเบาหวาน ต้องรีบไปพบแพทย์ด่วน

กล้ามเนื้ออ่อนแอเกินไป

เพราะกล้ามเนื้อเป็นอวัยวะที่มีการเผาผลาญมากที่สุดและมีการใช้กลูโคสมากที่สุดนั่นเอง จึงมีหน้าที่สำคัญช่วยรักษาความอบอุ่นของร่างกายได้ด้วย

วิธีป้องกันและรักษา

แนวทางคือการรักษาสุขภาพให้แข็งแรง สุขภาพดีเสมอ และรักษาได้จากสาเหตุที่เกิดขึ้นค่ะ

1. บำรุงร่างกายด้วยอาหารให้ครบทั้ง 5 หมู่ เลือกทานไขมันดีจากพืช วิตามินบี12 ก็จำเป็น และหากคุณมีภาวะเลือดจาง ต้องเน้นอาหารประเภทธาตุเหล็กสูง

2. รักษาน้ำหนักให้อยู่ในเกณฑ์มาตรฐาน

3. ดื่มน้ำให้ได้มากกว่า 8 แก้วต่อวัน

4. ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ

5. พักผ่อนอย่างเพียงพอ

6. หากเกิดอาการหนาวสั่นที่ผิดปกติ หรือเข้าข่ายอาการของโรคร้าย ควรเข้าพบแพทย์

เคล็ดลับ

– ที่สำคัญคือการระวัง ไม่ให้เสียสมดุลร่างกายมากเกินไป บ่อย ซ้ำๆ เลี่ยงการดื่มทานอาหารเครื่องดื่มที่มีพลังเย็นมาก หรือร้อนมาก ในปริมาณมาก

– รักษาปรับสมดุลร่างกายได้โดย เลือกทานผลไม้ที่มีทั้งความชุ่มเย็นและความเผ็ดร้อน เช่นการทานสมุนไพรช่วย เช่น บัวบก พริกไทย

– รักษาปรับสมดุลร่างกายได้โดย เลือกทานผลไม้ที่มีทั้งความชุ่มเย็นและความเผ็ดร้อน เช่นการทานสมุนไพรช่วย เช่น บัวบก พริกไทย

– หากอาการหนาวง่ายของคุณเกิดจากสาเหตุใดบ้างนั้น ลองปรับเปลี่ยนพฤติกรรม และรักษาร่างกายให้สุขภาพดีเสมอ ร่างกายจะได้มีความอบอุ่น ไม่รู้สึกหนาวง่ายๆ อีกต่อไปค่ะ

– ที่สำคัญคือการระวัง ไม่ให้เสียสมดุลร่างกายมากเกินไป บ่อย ซ้ำๆ เลี่ยงการดื่มทานอาหารเครื่องดื่มที่มีพลังเย็นมาก หรือร้อนมาก ในปริมาณมาก

หากอาการหนาวง่ายของคุณเกิดจากสาเหตุใดบ้างนั้น ลองปรับเปลี่ยนพฤติกรรม และรักษาร่างกายให้สุขภาพดีเสมอ ร่างกายจะได้มีความอบอุ่น ไม่รู้สึกหนาวง่ายๆ อีกต่อไปค่ะ

ที่มา...https://fungtumpost.com/2017/11/21/post221117006/