วิธีเพิ่มบุญให้ตัวเอง ''หลุดพ้นจากกรรมเก่า'' โดยไม่ต้องเข้าวัด ทำได้ทุกที่ทุกเวลา
1. ดูแลพ่อแม่ ปู่ย่าตายาย ที่อยู่ในบ้านให้ท่านมีความสุขพ่อแม่คือพระประจำบ้าน อย่าทำให้ท่านเดือดร้อนใจ หรือเป็นทุกข์ใจ หรือถ้ามีโอกาสทำดีก็ควรหมั่นทำ อาจจะพาไปเที่ยว ซื้อของมาฝากและเรียกพวกท่านให้รับของที่เราซื้อมา เท่านี้ก็เป็นการทำบุญที่ดีสุดๆแล้ว
2. ตักบาตรตอนเช้าก่อนที่จะไปทำงาน ตื่นช้าขึ้นอีกสักนิด รู้จักการให้มากกว่าการรับ แล้วชีวิตของคุณจะมีความสุขมากยิ่งขึ้น
3. สวดมนต์ วันละ 1 บท สร้างสมาธิด้วยการสวดมนต์วันละแค่ 1 บท ให้พระธรรมช่วยขัดเกลาจิตใจให้บริสุทธิ์มากยิ่งขึ้นอาจเป็นบทสวดมนต์ง่ายๆ อย่างการแผ่เมตตา หรืออิติปิโส แต่ถ้ามีเวลาหน่อยก็สวดพระคาถาชินบัญชร 1 จบก็จะดีเลยละ
4. ถวายน้ำเปล่า 1 แก้ว หรือ อาหารคาวหวาน หรือ จะเป็นดอกไม้พวงมาลัย ให้พระพุทธรูปที่บ้านพระพุทธรูปประจำบ้านเป็นสิ่งที่ช่วยยึดเหนี่ยวจิตใจที่ดีของคนในบ้าน เราจึงควรดูแลท่านให้ดี
5. นั่งสมาธิอย่างน้อย 5 นาที แบ่งเวลาแค่เพียงวันละ 5 นาที อยู่กับตัวเองด้วยการนั่งสมาธิเสียบ้าง ไม่เรียกว่าเสียเวลาหรอก
6. ไม่กินเนื้อสัตว์สัก 1 วันในสัปดาห์ ลองไม่เบียดเบียนสัตว์ดูบ้าง ได้ทั้งบุญและสุขภาพที่ดีในเวลาเดียวกัน
7. พูดคุย หรือ สั่งสอนเรื่องธรรมะ แลกเปลี่ยนความรู้เรื่องพระธรรมซึ่งกันและกัน จะช่วยให้รอบรู้มากขึ้น
8. ทำบุญกับพระสงฆ์ที่พบระหว่างการเดินทาง เช่น หากพบเจอพระสงฆ์ยืนรอรถอยู่ที่ป้ายรถเมล์ ก็อาจะไปบอกท่านว่า เราต้องการทำบุญ เนื่องจากไม่มีเวลาจะไปที่วัด และขอเสนอตัวไปขับรถไปส่งท่าน ณ จุดมุ่งหมาย หรือ อาจถวายเงิน, ผ้าไตร, ผ้าจีวร หากพบว่าท่านกำลังซื้ออยู่ หรือ มีร้านอยู่ใกล้ ๆ พอดี
9. ถ้าทราบว่าใครเดือดร้อนเรื่องใด ๆ ก็ให้ช่วยเหลือด้วยความเต็มใจ และเราก็จะต้องไม่เดือดร้อนทำตามกำลังความสามารถของเราที่เราพอทำได้และเราต้องไม่ลำบาก เช่น ช่วยคนแก่ให้ข้ามถนน, ให้เงินคนที่ไม่มีเงินกินข้าวหรือเดินทางกลับบ้านที่ต่างจังหวัด เป็นต้น
10. ให้คำแนะนำที่ดีๆ กับผู้ที่มีความทุกข์ และเดินเข้ามาขอคำแนะนำจากเราคำแนะนำของเราจะต้องไม่ทำให้คนอื่นเดือดร้อนด้วย
11. ช่วยคนที่เขาเอาของมาขายกับเรา ตรงนี้ยกเว้นลอตเตอร์รี่นะคะ เพราะหากเป็นลอตเตอรี่ เรามักจะหวังผลจากลอตเตอร์รี่ที่ซื้อไปว่าอาจจะถูกรางวัล ซึ่งการทำบุญตรงนี้เราจะต้องไม่หวังผลตอบแทนใด ๆ ทั้งสิ้น
12. ดูแลสัตว์เลี้ยงที่บ้านเป็นอย่างดี เช่น อาบน้ำ, ดูแลจานใส่อาหารให้สะอาด, ดูแลเรื่องความสะอาดเรียบร้อยของกรงหรือที่อยู่, หมั่นพูดคุย, คอยสังเกตุว่าเขาชอบหรือรักอะไรก็ให้เขาไป เช่น ชอบนอนในถุง หรือ ชอบนอนกับตุ๊กตา, วโรกาสพิเศษก็มอบของให้เขาด้วยเช่นกัน อย่าคิดว่าเขาเป็นแค่สัตว์เลี้ยง
13. จาน ชาม กินเสร็จแล้วควรล้างขึ้นมาทันที หรือ ถ้าไม่มีเวลา อย่างน้อยที่สุดก็ควรล้างเอาเศษอาหารออกให้หมดก่อนเพราะไม่เช่นนั้น มดจะเดินมาขึ้นมาบนเศษอาหาร ทำให้เวลาล้างต้องราดน้ำไปที่มดทั้งหมด และจะเป็นการฆ่าสัตว์แบบไม่ได้ตั้งใจ
14. ถือศีล 5
ข้อที่ 1 ตั้งใจงดเว้นจากการฆ่าสัตว์
ข้อที่ 2 ตั้งใจงดเว้นจากการลักขโมย
ข้อที่ 3 ตั้งใจงดเว้นจากการประพฤติผิดในกาม
ข้อที่ 4 ตั้งใจงดเว้นจากการพูดเท็จ พูดคำหยาบ คำส่อเสียด เพ้อเจ้อ
ข้อที่ 5 ตั้งใจงดเว้นจากดื่มสุรา
15. ให้อภัยในสิ่งที่เขามาว่าเราไม่ว่าจะเรื่องใด ๆ ก็ตาม การให้ทาน แม้จะมากถึง 100 ครั้ง ก็ยังได้บุญน้อยกว่าการให้ "อภัยทาน" แม้จะให้แต่เพียงครั้งเดียวก็ตาม การให้อภัยทาน ก็คือการไม่ผูกโกรธ ไม่อาฆาตจองเวร ไม่พยาบาทคิดร้ายผู้อื่นแม้แต่ศัตรู ซึ่งได้บุญกุศลแรงและสูงมากในฝ่ายทาน
16. สิ่งของที่ไม่ใช้ก็ให้คนอื่นไปใช้ประโยชน์เสื้อผ้า หนังสือ ที่ไม่ใช้แล้ว ไม่มีค่าแล้วสำหรับเรา อาจมีค่าอย่างยิ่งสำหรับคนอื่น ลองแบ่งปันให้พวกเขาดูบ้าง
และนี่คือวิธีที่ทุกคนสามารถจะทำบุญได้ทุกเมื่อที่สะดวก โดยไม่จำเป็นต้องไปวัดเสมอ แต่อย่างไรก็ตามการทำบุญ ทำกุศลนั้น ต้องมาจากความตั้งใจและไม่ทำให้ใครเดือดร้อน จึงจะได้บุญกุศลอย่างแท้จริง
1. ดูแลพ่อแม่ ปู่ย่าตายาย ที่อยู่ในบ้านให้ท่านมีความสุขพ่อแม่คือพระประจำบ้าน อย่าทำให้ท่านเดือดร้อนใจ หรือเป็นทุกข์ใจ หรือถ้ามีโอกาสทำดีก็ควรหมั่นทำ อาจจะพาไปเที่ยว ซื้อของมาฝากและเรียกพวกท่านให้รับของที่เราซื้อมา เท่านี้ก็เป็นการทำบุญที่ดีสุดๆแล้ว
2. ตักบาตรตอนเช้าก่อนที่จะไปทำงาน ตื่นช้าขึ้นอีกสักนิด รู้จักการให้มากกว่าการรับ แล้วชีวิตของคุณจะมีความสุขมากยิ่งขึ้น
3. สวดมนต์ วันละ 1 บท สร้างสมาธิด้วยการสวดมนต์วันละแค่ 1 บท ให้พระธรรมช่วยขัดเกลาจิตใจให้บริสุทธิ์มากยิ่งขึ้นอาจเป็นบทสวดมนต์ง่ายๆ อย่างการแผ่เมตตา หรืออิติปิโส แต่ถ้ามีเวลาหน่อยก็สวดพระคาถาชินบัญชร 1 จบก็จะดีเลยละ
4. ถวายน้ำเปล่า 1 แก้ว หรือ อาหารคาวหวาน หรือ จะเป็นดอกไม้พวงมาลัย ให้พระพุทธรูปที่บ้านพระพุทธรูปประจำบ้านเป็นสิ่งที่ช่วยยึดเหนี่ยวจิตใจที่ดีของคนในบ้าน เราจึงควรดูแลท่านให้ดี
5. นั่งสมาธิอย่างน้อย 5 นาที แบ่งเวลาแค่เพียงวันละ 5 นาที อยู่กับตัวเองด้วยการนั่งสมาธิเสียบ้าง ไม่เรียกว่าเสียเวลาหรอก
6. ไม่กินเนื้อสัตว์สัก 1 วันในสัปดาห์ ลองไม่เบียดเบียนสัตว์ดูบ้าง ได้ทั้งบุญและสุขภาพที่ดีในเวลาเดียวกัน
7. พูดคุย หรือ สั่งสอนเรื่องธรรมะ แลกเปลี่ยนความรู้เรื่องพระธรรมซึ่งกันและกัน จะช่วยให้รอบรู้มากขึ้น
8. ทำบุญกับพระสงฆ์ที่พบระหว่างการเดินทาง เช่น หากพบเจอพระสงฆ์ยืนรอรถอยู่ที่ป้ายรถเมล์ ก็อาจะไปบอกท่านว่า เราต้องการทำบุญ เนื่องจากไม่มีเวลาจะไปที่วัด และขอเสนอตัวไปขับรถไปส่งท่าน ณ จุดมุ่งหมาย หรือ อาจถวายเงิน, ผ้าไตร, ผ้าจีวร หากพบว่าท่านกำลังซื้ออยู่ หรือ มีร้านอยู่ใกล้ ๆ พอดี
9. ถ้าทราบว่าใครเดือดร้อนเรื่องใด ๆ ก็ให้ช่วยเหลือด้วยความเต็มใจ และเราก็จะต้องไม่เดือดร้อนทำตามกำลังความสามารถของเราที่เราพอทำได้และเราต้องไม่ลำบาก เช่น ช่วยคนแก่ให้ข้ามถนน, ให้เงินคนที่ไม่มีเงินกินข้าวหรือเดินทางกลับบ้านที่ต่างจังหวัด เป็นต้น
10. ให้คำแนะนำที่ดีๆ กับผู้ที่มีความทุกข์ และเดินเข้ามาขอคำแนะนำจากเราคำแนะนำของเราจะต้องไม่ทำให้คนอื่นเดือดร้อนด้วย
11. ช่วยคนที่เขาเอาของมาขายกับเรา ตรงนี้ยกเว้นลอตเตอร์รี่นะคะ เพราะหากเป็นลอตเตอรี่ เรามักจะหวังผลจากลอตเตอร์รี่ที่ซื้อไปว่าอาจจะถูกรางวัล ซึ่งการทำบุญตรงนี้เราจะต้องไม่หวังผลตอบแทนใด ๆ ทั้งสิ้น
12. ดูแลสัตว์เลี้ยงที่บ้านเป็นอย่างดี เช่น อาบน้ำ, ดูแลจานใส่อาหารให้สะอาด, ดูแลเรื่องความสะอาดเรียบร้อยของกรงหรือที่อยู่, หมั่นพูดคุย, คอยสังเกตุว่าเขาชอบหรือรักอะไรก็ให้เขาไป เช่น ชอบนอนในถุง หรือ ชอบนอนกับตุ๊กตา, วโรกาสพิเศษก็มอบของให้เขาด้วยเช่นกัน อย่าคิดว่าเขาเป็นแค่สัตว์เลี้ยง
13. จาน ชาม กินเสร็จแล้วควรล้างขึ้นมาทันที หรือ ถ้าไม่มีเวลา อย่างน้อยที่สุดก็ควรล้างเอาเศษอาหารออกให้หมดก่อนเพราะไม่เช่นนั้น มดจะเดินมาขึ้นมาบนเศษอาหาร ทำให้เวลาล้างต้องราดน้ำไปที่มดทั้งหมด และจะเป็นการฆ่าสัตว์แบบไม่ได้ตั้งใจ
14. ถือศีล 5
ข้อที่ 1 ตั้งใจงดเว้นจากการฆ่าสัตว์
ข้อที่ 2 ตั้งใจงดเว้นจากการลักขโมย
ข้อที่ 3 ตั้งใจงดเว้นจากการประพฤติผิดในกาม
ข้อที่ 4 ตั้งใจงดเว้นจากการพูดเท็จ พูดคำหยาบ คำส่อเสียด เพ้อเจ้อ
ข้อที่ 5 ตั้งใจงดเว้นจากดื่มสุรา
15. ให้อภัยในสิ่งที่เขามาว่าเราไม่ว่าจะเรื่องใด ๆ ก็ตาม การให้ทาน แม้จะมากถึง 100 ครั้ง ก็ยังได้บุญน้อยกว่าการให้ "อภัยทาน" แม้จะให้แต่เพียงครั้งเดียวก็ตาม การให้อภัยทาน ก็คือการไม่ผูกโกรธ ไม่อาฆาตจองเวร ไม่พยาบาทคิดร้ายผู้อื่นแม้แต่ศัตรู ซึ่งได้บุญกุศลแรงและสูงมากในฝ่ายทาน
16. สิ่งของที่ไม่ใช้ก็ให้คนอื่นไปใช้ประโยชน์เสื้อผ้า หนังสือ ที่ไม่ใช้แล้ว ไม่มีค่าแล้วสำหรับเรา อาจมีค่าอย่างยิ่งสำหรับคนอื่น ลองแบ่งปันให้พวกเขาดูบ้าง
และนี่คือวิธีที่ทุกคนสามารถจะทำบุญได้ทุกเมื่อที่สะดวก โดยไม่จำเป็นต้องไปวัดเสมอ แต่อย่างไรก็ตามการทำบุญ ทำกุศลนั้น ต้องมาจากความตั้งใจและไม่ทำให้ใครเดือดร้อน จึงจะได้บุญกุศลอย่างแท้จริง