ตำนานพระยอดกตัญญู หลวงพ่อบุญอุ้ม ผู้ดูแลมารดาตราบจนวินาทีสุดท้าย อานิสงส์บุญนั้นสร้างปาฏิหาริย์อย่างไม่น่าเชื่อ!
"พระอาจารย์บุญอุ้ม อาภัสสโร" หรือ "พระครูไพศาลธรรมมงคล" อดีตเจ้าคณะตำบลบ้านแพง-นาทม และเจ้าอาวาสวัดป่าโนนแพง หมู่ ๕ ต.บ้านแพง อ.บ้าน แพง จ.นครพนม
เป็นพระเกจิอาจารย์ชื่อดังที่ชาวนครพนมและจังหวัดใกล้เคียงให้ความเลื่อมใสศรัทธา เป็นพระป่าที่สืบสายธรรมจากหลวงปู่มหาเหรียญ ปภาคโร แห่งวัดบ้านหันห้วยทราย อ.ประทาย จ.นครราชสีมา
ครั้นอายุครบ ๑๓ ปี ได้บรรพชาเป็นสามเณร จำพรรษาที่วัดชัยมงคล ก่อนติดตามหลวงปู่มหาเหรียญ ธุดงไปปักกลดตามป่าช้าในจังหวัด นครราชสีมา ร้อยเอ็ด มหาสารคาม กาฬสินธุ์ อุบลราชธานี สระบุรี และทางจังหวัดภาคเหนือ นาน ๕ ปี ก่อนลาสิกขาบทออกไปช่วยครอบครัวหาเลี้ยงชีพ ครั้นอายุ ๒๙ ปี ได้เข้าอุปสมบท ณ พัทธสีมา วัดศรีวิชัย ต.สามผง อ.ศรีสงคราม จ.นครพนม เมื่อวันที่ ๔ กุมภาพันธ์ ๒๕๒๗ มีพระครู อดุลธรรมภาณ หรือ หลวงปู่คำพันธ์ จันทูปโม เป็นพระอุปฌาย์ พระอาจารย์แดง ฐิตวิริโย เป็นพระอนุสาวาจาจารย์
หลังอุปสมบทไดจำพรรษาบนเทือกเขาภูลังกา ภายในถ้ำมืด ถ้ำโขง กับหลวงปู่อ่อนศรี ขันติกโร บิดา ในวัย ๗๐ ปี เพื่อภาวนา นั่งสมาธิ ฝึกจิต เป็นเวลา ๑๘ ปี ก่อนออกธุดงค์ไปกับสามเณร ๒ รูป ในภาคเหนือ ๓ จังหวัด ก่อนกลับมาดูแลบิดาที่อาพาธอยู่เป็นระยะเวลา ๒-๓ ปี
ก่อนที่หลวงปู่อ่อนศรี ขันติกโร บิดาจะละสังขารในวันที่ ๗ ตุลาคม ๒๕๔๕ ท่านได้ยกที่ดินหัวนา จำนวน ๒๐ ไร่ หมู่ ๕ ต.บ้านแพง อ.บ้านแพง จ.นครพนม ให้เป็นที่พักสงฆ์อยู่หลายปี ก่อนที่จะขออนุญาตตั้งวัดชื่อว่า “วัดป่าโนนแพง” ในปีพ.ศ.๒๕๔๓ พระอาจารย์บุญอุ้ม อาภสฺสโร ได้รับแต่งตั้งเป็นเจ้าอาวาส และได้รับแต่งตั้งเป็นเจ้าคณะตำบลบ้านแพง-นาทม นาน ๒-๓ ปี ก่อนจะได้ลาออกให้พระรุ่นใหม่ปกครองคณะสงฆ์แทน
ประกอบกับต้องดูแลมารดาที่บวชเป็นชีที่วัด และป่วย หลวงพ่อดูแลมารดา..อุ้มไปขับถ่ายในห้องน้ำก่อนหน้านี้แม่และน้องอยู่กับญาติที่พัทลุง แต่ญาติมีภาระมาก ไม่มีเวลาดูแล จึงตัดสินใจ พาแม่มาดูแลเองที่วัด ญาติโยมเห็นใจไม่มีเวลาออกบิณฑบาต นำอาหารมาถวายช่วยเหลือพระผู้ใหญ่ชี้ทำได้ ไม่ผิดวินัยสงฆ์ เพราะเป็นหน้าที่ลูกต้องเลี้ยงดูบุพการี ไม่ว่าอยู่ในสถานะอะไร..ท่านอุ้มแบบนี้..เป็นระยะยาวนานแรมปี จนหมดลมหายใจสุดท้ายมารดาของท่าน จนมรณกรรมเมื่อวันที่ ๓๐ กันยายน ๒๕๕๐
ซึ่งอานิสงนี้ ถึงขั้นหลวงปู่บุญ วัดกลางบางแก้ว พระอริยะในอดีตที่ละขันธ์ไปแล้วตั้งแต่ พ.ศ. ๒๔๗๘ หลวงปู่บุญ...มาหาหลวงพ่อบุญอุ้ม ในนิมิต เพื่ออนุโมทนา ยกย่อง ในความกตัญญูที่ท่านได้ทำ และได้รับรองวัตถุมงคลต่างๆที่หลวงพ่อบุญอุ้มสร้างขึ้นหรืออธิษฐานจิตไว้ มีพุทธคุณสูง และวัตถุมงคลนั้นไม่เสื่อมคลายความขลัง เสื่อมยาก สามารถทำกิจวัตรประจำวันได้ตามปกติโดยไม่ต้องถอด อาทิเช่นใส่รอดราวตากผ้า ใส่เข้าห้องน้ำขับถ่ายได้ ใส่เดินทางรอดราวสะพานได้ เดินทางข้ามน้ำข้ามทะเลได้ความขลังยังเหมือนเดิมไม่เสื่อมคลาย......ด้วยเหตุแห่งการดูแลบุพการีนั้นเอง
เรื่องราวของพระอริยะที่ดูแลมารดานั้น หลวงพ่อปาน(โสนันโท)เอง ท่านมีความกตัญญูกตเวทีกับมารดาท่านมาก เช่นกัน เมื่อมารดาของท่านป่วย หลวงพ่อปาน(โสนันโท) ท่านไม่ยอมให้อยู่ที่บ้าน ท่านนำมารักษาที่วัดให้นอนในกุฏิท่าน ผ้านุ่ง ผ้าห่มของท่าน ท่านซักเอง เวลาท่านมารดาลุกไม่ถนัด ท่านก็อุ้มลุกอุ้มนั่ง เช็ดขี้เช็ดเยี่ยวให้
มีหลายคนตำหนิหลวงพ่อปานว่า ท่านเป็นพระ ทำอย่างนี้มารดาท่านจะบาป ท่านก็เลยบอกว่า พระพุทธเจ้า ท่านว่าไม่บาป เป็นความดีที่แสดงความกตัญญูกตเวทีต่อบิดามารดา เวลานี้ท่านเป็นพระเป็นลูกของพระพุทธเจ้า ท่านก็เลยทำตามพระพุทธเจ้า พระองค์เทศน์ไว้ในพระไตรปิฎกมีอยู่ ในสมัยที่ พระพุทธเจ้ายังเสวยพระชาติเป็นพระโพธิสัตว์ เสวยพระชาติมีนามว่า "สุวรรณสาม" สมัยนั้นพระองค์ก็ปรนนิบัติดูแล บิดามารดาของท่านเป็นอย่างดี เช่นกัน
ที่มา : palungjit.org / kaentong.com / เรื่องเล่าชาวสยาม
"พระอาจารย์บุญอุ้ม อาภัสสโร" หรือ "พระครูไพศาลธรรมมงคล" อดีตเจ้าคณะตำบลบ้านแพง-นาทม และเจ้าอาวาสวัดป่าโนนแพง หมู่ ๕ ต.บ้านแพง อ.บ้าน แพง จ.นครพนม
เป็นพระเกจิอาจารย์ชื่อดังที่ชาวนครพนมและจังหวัดใกล้เคียงให้ความเลื่อมใสศรัทธา เป็นพระป่าที่สืบสายธรรมจากหลวงปู่มหาเหรียญ ปภาคโร แห่งวัดบ้านหันห้วยทราย อ.ประทาย จ.นครราชสีมา
ครั้นอายุครบ ๑๓ ปี ได้บรรพชาเป็นสามเณร จำพรรษาที่วัดชัยมงคล ก่อนติดตามหลวงปู่มหาเหรียญ ธุดงไปปักกลดตามป่าช้าในจังหวัด นครราชสีมา ร้อยเอ็ด มหาสารคาม กาฬสินธุ์ อุบลราชธานี สระบุรี และทางจังหวัดภาคเหนือ นาน ๕ ปี ก่อนลาสิกขาบทออกไปช่วยครอบครัวหาเลี้ยงชีพ ครั้นอายุ ๒๙ ปี ได้เข้าอุปสมบท ณ พัทธสีมา วัดศรีวิชัย ต.สามผง อ.ศรีสงคราม จ.นครพนม เมื่อวันที่ ๔ กุมภาพันธ์ ๒๕๒๗ มีพระครู อดุลธรรมภาณ หรือ หลวงปู่คำพันธ์ จันทูปโม เป็นพระอุปฌาย์ พระอาจารย์แดง ฐิตวิริโย เป็นพระอนุสาวาจาจารย์
หลังอุปสมบทไดจำพรรษาบนเทือกเขาภูลังกา ภายในถ้ำมืด ถ้ำโขง กับหลวงปู่อ่อนศรี ขันติกโร บิดา ในวัย ๗๐ ปี เพื่อภาวนา นั่งสมาธิ ฝึกจิต เป็นเวลา ๑๘ ปี ก่อนออกธุดงค์ไปกับสามเณร ๒ รูป ในภาคเหนือ ๓ จังหวัด ก่อนกลับมาดูแลบิดาที่อาพาธอยู่เป็นระยะเวลา ๒-๓ ปี
ก่อนที่หลวงปู่อ่อนศรี ขันติกโร บิดาจะละสังขารในวันที่ ๗ ตุลาคม ๒๕๔๕ ท่านได้ยกที่ดินหัวนา จำนวน ๒๐ ไร่ หมู่ ๕ ต.บ้านแพง อ.บ้านแพง จ.นครพนม ให้เป็นที่พักสงฆ์อยู่หลายปี ก่อนที่จะขออนุญาตตั้งวัดชื่อว่า “วัดป่าโนนแพง” ในปีพ.ศ.๒๕๔๓ พระอาจารย์บุญอุ้ม อาภสฺสโร ได้รับแต่งตั้งเป็นเจ้าอาวาส และได้รับแต่งตั้งเป็นเจ้าคณะตำบลบ้านแพง-นาทม นาน ๒-๓ ปี ก่อนจะได้ลาออกให้พระรุ่นใหม่ปกครองคณะสงฆ์แทน
ประกอบกับต้องดูแลมารดาที่บวชเป็นชีที่วัด และป่วย หลวงพ่อดูแลมารดา..อุ้มไปขับถ่ายในห้องน้ำก่อนหน้านี้แม่และน้องอยู่กับญาติที่พัทลุง แต่ญาติมีภาระมาก ไม่มีเวลาดูแล จึงตัดสินใจ พาแม่มาดูแลเองที่วัด ญาติโยมเห็นใจไม่มีเวลาออกบิณฑบาต นำอาหารมาถวายช่วยเหลือพระผู้ใหญ่ชี้ทำได้ ไม่ผิดวินัยสงฆ์ เพราะเป็นหน้าที่ลูกต้องเลี้ยงดูบุพการี ไม่ว่าอยู่ในสถานะอะไร..ท่านอุ้มแบบนี้..เป็นระยะยาวนานแรมปี จนหมดลมหายใจสุดท้ายมารดาของท่าน จนมรณกรรมเมื่อวันที่ ๓๐ กันยายน ๒๕๕๐
ซึ่งอานิสงนี้ ถึงขั้นหลวงปู่บุญ วัดกลางบางแก้ว พระอริยะในอดีตที่ละขันธ์ไปแล้วตั้งแต่ พ.ศ. ๒๔๗๘ หลวงปู่บุญ...มาหาหลวงพ่อบุญอุ้ม ในนิมิต เพื่ออนุโมทนา ยกย่อง ในความกตัญญูที่ท่านได้ทำ และได้รับรองวัตถุมงคลต่างๆที่หลวงพ่อบุญอุ้มสร้างขึ้นหรืออธิษฐานจิตไว้ มีพุทธคุณสูง และวัตถุมงคลนั้นไม่เสื่อมคลายความขลัง เสื่อมยาก สามารถทำกิจวัตรประจำวันได้ตามปกติโดยไม่ต้องถอด อาทิเช่นใส่รอดราวตากผ้า ใส่เข้าห้องน้ำขับถ่ายได้ ใส่เดินทางรอดราวสะพานได้ เดินทางข้ามน้ำข้ามทะเลได้ความขลังยังเหมือนเดิมไม่เสื่อมคลาย......ด้วยเหตุแห่งการดูแลบุพการีนั้นเอง
เรื่องราวของพระอริยะที่ดูแลมารดานั้น หลวงพ่อปาน(โสนันโท)เอง ท่านมีความกตัญญูกตเวทีกับมารดาท่านมาก เช่นกัน เมื่อมารดาของท่านป่วย หลวงพ่อปาน(โสนันโท) ท่านไม่ยอมให้อยู่ที่บ้าน ท่านนำมารักษาที่วัดให้นอนในกุฏิท่าน ผ้านุ่ง ผ้าห่มของท่าน ท่านซักเอง เวลาท่านมารดาลุกไม่ถนัด ท่านก็อุ้มลุกอุ้มนั่ง เช็ดขี้เช็ดเยี่ยวให้
มีหลายคนตำหนิหลวงพ่อปานว่า ท่านเป็นพระ ทำอย่างนี้มารดาท่านจะบาป ท่านก็เลยบอกว่า พระพุทธเจ้า ท่านว่าไม่บาป เป็นความดีที่แสดงความกตัญญูกตเวทีต่อบิดามารดา เวลานี้ท่านเป็นพระเป็นลูกของพระพุทธเจ้า ท่านก็เลยทำตามพระพุทธเจ้า พระองค์เทศน์ไว้ในพระไตรปิฎกมีอยู่ ในสมัยที่ พระพุทธเจ้ายังเสวยพระชาติเป็นพระโพธิสัตว์ เสวยพระชาติมีนามว่า "สุวรรณสาม" สมัยนั้นพระองค์ก็ปรนนิบัติดูแล บิดามารดาของท่านเป็นอย่างดี เช่นกัน
ที่มา : palungjit.org / kaentong.com / เรื่องเล่าชาวสยาม