แจกสูตรบัวลอยน้ำขิงงาดำ เมนูสุขภาพ ป้องกันโรคมะเร็ง บำรุงหัวใจ ได้ประโยชน์เพียบทำง่ายมากๆ

แจกสูตรบัวลอยน้ำขิงงาดำ เมนูสุขภาพกินแล้วดีต่อร่างกายแถมทำง่ายมากๆ

สูตรบัวลอยน้ำขิงงาดำ

วันนี้มีเมนูเพื่อสุขภาพมาฝากกันค่ะ เป็นเมนูที่คุณ Supaporn Kumnodnae ได้นำมาแบ่งปันกันโดยเป็นเมนูบัวลอยน้ำขิงงาดำ ส่วนวิธีการทำนั้นจะยากง่ายแค่ไหนมาชมกันเลยคะ



ส่วนผสมบัวลอยน้ำขิงงาดำ

1.ตัวไส้

- งาดำ 1 ถ้วย

- น้ำตาลปี๊บ 2 ชต.

- เกลือปลายช้อน

- น้ำสะอาด 1/2 ถ้วย

2.ตัวแป้งบัวลอย

- แป้งข้าวเหนียว 2 ถ้วย (แบ่งทำแป้งนวล 2 ชต.)

- แป้งข้าวจ้าว 4 ชต.

- น้ำสะอาด 3/4 ถ้วย

3.น้ำขิง

- ขิงแก่ 10 แว่น

- น้ำตาลทรายแดง 1/3 ถ้วย (ชิมแล้วเพิ่มตามชอบค่ะ)

- น้ำสะอาด 3 ถ้วย

วิธีทำบัวลอยน้ำขิงงาดำ

1.ตัวไส้บัวลอย

- คั่วงาดำแล้วนำไปโขลกให้ละเอียด

- ผสมน้ำตาล เกลือ และน้ำ นำขึ้นตั้งเตา เคี่ยวให้น้ำตาลหอม แล้วใส่งาลงไปกวน พักไว้พออุ่นๆ ปั้นเป็นก้อนกลมๆ พักไว้

2.ตัวแป้งบัวลอย

ผสมแป้งทั้งสองชนิดเข้าด้วยกัน ค่อยๆเติมน้ำลงไป กะให้พอปั้นเป็นก้อนได้ ใช้แป้งนวลโรยใส่มือ แล้วปั้นแป้งเป็นก้อนกลม กดให้เป็นแผ่นแบนๆ นำไส้งาที่ปั้นไว้มาใส่ตรงกลาง แล้วปั้นแป้งให้หุ้มมิดไส้ วางใส่จานที่โรยแป้งนวลไว้

3.ทำน้ำขิง

นำหม้อใส่น้ำขึ้นตั้งเตา พอเดือดใส่ขิงลงไปต้มสักครู่ แล้วใส่น้ำตาลลงไป พอเดือดยกลง


* เวลาจะทานนำบัวลอยที่ปั้นไว้ ลงต้มในน้ำเดือด เมื่อบัวลอยสุก(ตัวบัวลอยจะลอยขึ้น) ตักใส่ถ้วย แล้วใส่น้ำขิงลงไป

ประโยชน์ของงาดำ สรรพคุณมากล้ำ รักษาโรคอะไรได้บ้าง

งาดำ ถือเป็นซูเปอร์ฟู้ดมีประโยชน์ต่อสุขภาพอีกชนิดหนึ่ง จึงทำให้เราได้เห็นว่าในปัจจุบันมีการนำงาดำมาสกัดเป็นอาหารเสริมบำรุงสุขภาพมากมาย โดยประโยชน์ของงาดำมีดังนี้

1. บรรเทาอาการปวดข้ออักเสบรูมาตอยด์

สำหรับคนที่มีปัญหาข้อต่ออักเสบรูมาตอยด์ การรับประทานงาดำสามารถลดอาการปวดได้ เพราะธาตุทองแดงที่อยู่ในงาดำมีฤทธิ์ต้านอาการอักเสบ ทำให้อาการปวดลดลง นอกจากนี้ธาตุทองแดงยังมีส่วนช่วยสร้างคอลลาเจน ซึ่งคอลลาเจนนั้นสำคัญต่อการเสริมสร้างเนื้อเยื่อ ข้อต่อ กระดูกอ่อน และหลอดเลือดให้แข็งแรง

2. บำรุงผิวพรรณและกระดูก

งาดำขึ้นชื่อว่าเป็นธัญพืชอีกชนิดหนึ่งที่อุดมไปด้วยแคลเซียม ซึ่งแคลเซียมที่อยู่ในงาดำนั้นมีมากกว่านมถึง 6 เท่า นอกจากนี้ก็ยังมีสังกะสีที่ช่วยเสริมสร้างความแข็งแรงของกระดูก เพิ่มมวลกระดูก จึงเหมาะกับคนทุกเพศทุกวัย โดยเฉพาะผู้หญิงในวัยหมดประจำเดือนที่มีความเสี่ยงเป็นโรคกระดูกพรุน ขณะที่วิตามินอีที่อยู่ในงาดำก็ยังมีส่วนสำคัญในการบำรุงผิวพรรณให้นุ่มชุ่มชื้น หากรับประทานเป็นประจำรับรองได้เลยว่ากระดูกแข็งแรง ผิวพรรณดี ห่างไกลจากริ้วรอยแห่งวัย ดูเด็กลงได้อีกหลายปีเลย

3. ลดระดับคอเลสเตอรอลในเลือด

สารเซซามีนและสานเซซาโมลีน เป็นไฟเบอร์ในกลุ่มลิกแนน (Lignans) ที่มีคุณสมบัติในการลดระดับคอเลสเตอรอลในเลือดได้ ซึ่งเจ้าสารชนิดนี้เป็นสารที่อุดมอยู่ในงาดำ นอกจากนี้ในงาดำก็ยังอุดมด้วยสารไฟโตสเตอรอล (Phytosterols) ที่มึโครงสร้างใกล้เคียงกับคอเลสเตอรอล แต่ไม่เป็นอันตรายกับสุขภาพ ยิ่งรับประทานก็ยิ่งช่วยลดระดับคอเลสเตอรอล และช่วยลดความเสี่ยงโรคมะเร็งชนิดต่าง ๆ ได้อีกด้วย

4. บำรุงหัวใจ

เพราะงาดำสามารถช่วยลดระดับคอเลสเตอรอลได้ จึงทำให้สุขภาพหัวใจแข็งแรงขึ้น เพราะเมื่อร่างกายมีระดับคอเลสเตอรอลที่ลดลง ก็จะส่งผลให้หลอดเลือดหัวใจสะอาดขึ้น ระบบไหลเวียนเลือดก็ดีขึ้น ลดความเสี่ยงได้ทั้งโรคหัวใจและหลอดเลือด หรือโรคความดันโลหิตสูง

5. ป้องกันโรคมะเร็ง

สารต้านอนุมูลอิสระที่อัดแน่นเต็มเมล็ดงาดำ เป็นตัวการสำคัญที่ทำให้งาดำกลายเป็นอาหารต้านมะเร็งที่มีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะโรคมะเร็งลำไส้ เพราะไฟเบอร์ที่อยู่ในงาดำจะเข้าไปกระตุ้นการทำงานของระบบลำไส้ ทำให้ลำไส้ทำงานได้ดีขึ้น ความเสี่ยงมะเร็งลำไส้ก็ลดลง นอกจากนี้สารเซซามีนที่มีอยู่ในงาดำก็ยังช่วยป้องกันสารอนุมูลอิสระไปทำลายตับและเมื่อตับสามารถทำงานได้เต็มประสิทธิภาพแล้ว ก็จะไม่มีสารพิษสะสมในร่างกายจนก่อให้เกิดโรคมะเร็งนั่นเอง แต่ทั้งนี้เอง หากรับประทานมากเกินไปก็อาจทำให้เสี่ยงกับโรคมะเร็งได้เหมือนกัน ฉะนั้นต้องรับประทานในปริมาณที่พอดีจะดีที่สุดค่ะ

6. ช่วยกระตุ้นระบบขับถ่าย

แม้จะเป็นเพียงธัญพืชเมล็ดเล็ก ๆ แต่งาดำก็อุดมไปด้วยไฟเบอร์จำนวนมาก ซึ่งถ้ารับประทานบ่อย ๆ ก็จะช่วยให้ระบบขับถ่ายทำงานได้ดีขึ้น หมดปัญหาเรื่องท้องผูกไปได้เลยล่ะค่ะ ใครที่มีปัญหาเรื่องระบบขับถ่ายลองหางาดำมารับประทานกันดูนะคะ

7. บรรเทากลุ่มอาการก่อนมีประจำเดือน (PMS)

กลุ่มอาการก่อนมีประจำเดือนถือเป็นปัญหาของคุณสาว ๆ หลายคน เพราะทำให้อารมณ์แปรปรวน หรือเกิดอาการปวดท้อง ปวดศีรษะ เมื่อยเนื้อเมื่อยตัว นอนไม่หลับ จนส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิต แต่ถ้าอยากจะลดอาการเหล่านี้แนะนำให้รับประทานงาดำค่ะ เพราะงาดำอุดมไปด้วยวิตามินบี แคลเซียม แมกนีเซียม และสังกะสี ที่ช่วยลดอาการ PMS ได้เป็นอย่างดี บอกลาอาการต่าง ๆ ก่อนมีประจำเดือนไปได้เลย

8. แก้ผมร่วง บำรุงเส้นผม

งาดำเป็นธัญพืชที่อุดมไปด้วยไขมันที่ดี ไม่ว่าจะเป็นไขมันโอเมก้า 3,6 และ 9 ซึ่งล้วนสำคัญต่อการเจริญเติบโตของเส้นผม อีกทั้งช่วยบำรุงให้หนังศีรษะและเส้นผมชุ่มชื้นมีสุขภาพดี ยิ่งถ้าหากใช้น้ำมันงาดำมานวดศีรษะเป็นประจำด้วยละก็ จะยิ่งช่วยกระตุ้นการไหลเวียนของเลือดบริเวณศีรษะทำให้เส้นผมได้รับแร่ธาตุและวิตามินมากขึ้น ไม่หลุดร่วงและยังดกดำเงางามขึ้นค่ะ

9. ช่วยให้นอนหลับได้ดีขึ้น

แคลเซียมและแมกนีเซียมที่อยู่ในงาดำ มีส่วนสำคัญที่ช่วยบรรเทาความเครียด ทำให้รู้สึกผ่อนคลาย นอกจากนี้ทริปโตเฟน (tryptophan) ซึ่งเป็นกรดอะมิโนที่มีในงาดำก็ยังเข้าไปช่วยเสริมสร้างทำงานของเซโรโทนิน ซึ่งเป็นฮอร์โมนที่ควบคุมการนอนหลับ ทำให้นอนหลับได้ดียิ่งขึ้นนั่นเอง

10. บำรุงสมอง ป้องกันโรคอัลไซเมอร์

จากการศึกษาที่ตีพิมพ์ใน Journal of Ethnopharmacology พบว่า การรับประทานสารสกัดจากงาดำสามารถช่วยป้องกัน และชะลอกการเกิดโรคอัลไซเมอร์ได้ โดยในการศึกษาได้ให้อาสาสมัครที่อยู่ในกลุ่มสูงวัยรับประทานสารสกัดจากงาดำแบบแคปซูลปริมาณ 500 มิลลิกรัม ทุกวันติดต่อกัน 9 สัปดาห์ พบว่าหลังจาก 9 สัปดาห์ผ่านไป อาสาสมัครเหล่านี้มีพัฒนาการในด้านความจำและการเรียนรู้ที่ดีขึ้น ดีแบบนี้ต้องรีบหามาลองแล้ว

11. บำรุงสายตา

ในการแพทย์แผนจีนเชื่อว่าดวงตานั้นสัมพันธ์กับตับ ดังนั้นหากตับมีปัญหาก็จะทำให้ดวงตาอ่อนล้า ตาแห้ง และมองเห็นไม่ชัดได้ จึงทำให้มีการนำงาดำมาใช้ในแพทย์แผนจีนเพื่อบำรุงสายตาและตับไปพร้อม ๆ กัน เมื่อตับมีสุขภาพดี ดวงตาก็จะชุ่มชื้นและใสปิ๊ง หมดปัญหาสุขภาพตาไปได้เลย

ขอบคุณภาพประกอบและสูตรอาหารจากคุณ Supaporn Kumnodnae

ข้อมูลจาก http://www.kubkhao.com/2016/09/thai03.html