ลองดูนะ บรรเทาไมเกรนด้วย 5 วิธีบำบัด ทำง่ายๆด้วยตัวเองที่บ้าน
“ไมเกรน” ถือว่าเป็นโรคยอดฮิตอันดับต้นๆ ของคนในยุคปัจจุบัน เมื่อมีอาการกำเริบจะทำให้หลอดเลือดภายในกะโหลกศีรษะหดตัว ในขณะที่หลอดเลือดภายนอกกะโหลดศีรษะ เช่น ที่ขมับพองตัว ส่งผลทำให้มีอาการปวดหัวตรงกลาง ตรงขมับ มึนงง เวียนศีรษะ หรือปวดหัวข้างใดข้างหนึ่ง ระยะเวลาปวดตั้งแต่ 4 – 72 ชั่วโมง ซึ่งไมเกรนเกิดจากสิ่งกระตุ้นต่างๆ
สิ่งกระตุ้นที่ทำให้เกิดอาการไมเกรนได้ มีดังต่อไปนี้
ทางตา : แสงแดด แสงจ้า แสงระยิบระยับ การใช้สายตาเคร่งเครียด หรือลายตา
ทางหู : เสียงดัง เสียงจอแจ
ทางจมูก : กลิ่นต่างๆ อาจเป็นกลิ่นน้ำหอม ควันบุหรี่ เป็นต้น
ทางลิ้น : อาหาร เช่น เครื่องในสัตว์ อาหารทะเล หมูแฮม ไส้กรอก ถั่ว กล้วยหอม ช็อกโกแลต ผงชูรส เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ กาแฟ ยาคุมกำเนิด ยานอนหลับ เป็นต้น
ทางกายภาพ : อากาศที่เย็นจัด ร้อนจัด อบอ้าว อดนอน นอนมาก ร่ายกายเหนื่อยล้า อาการเจ็บปวดต่างๆ เช่น ปวดฟัน ปวดประจำเดือน เป็นต้น
ทางใจ : ความเครียด กังวล ซึมเศร้า
วิธีบำบัดที่สามารถช่วยบรรเทาอาการปวดไมเกรน
อาหาร : คนที่ป่วยเป็นไมเกรนจะมีระบบย่อยและดูดซึมแมกนีเซียมไม่ดีเท่าที่ควร ดังนั้นจึงควรกินอาหารที่อุดมด้วยแมกนีเซียมเพื่อช่วยบรรเทาอาการไมเกรน เช่น ผักใบเขียว ฟักทอง ถั่วเมล็ดแห้ง(ยกเว้นถั่วเปลือกแข็ง เพราะมีสารแทนนินที่ยิ่งเข้าไปกระตุ้นให้เกิดไมเกรน)
น้ำมันหอมระเหย : ช่วยทำให้ระบบประสาทต่างๆ ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ปรับสมดุลของอารมณ์ และจิตใจให้ดียิ่งขึ้น ซึ่งวิธีการบำบัดสามารถทำได้ทั้งนวด และประคบ
- การนวด ผู้ป่วยที่เป็นไมเกรนควรมีน้ำมันหอมระเหยเปเปอร์มินต์ที่ช่วยทำให้รู้สึกกระปรี้กระเปร่า และลาเวนเดอร์ซึ่งช่วยให้คลายกังวล ลดความความเครียด และอาการซึมเศร้า ติดบ้านไว้เสมอ เมื่อมีอาการให้เทน้ำมันหอมระเหยทั้ง 2 ชนิด อย่างละ 1 หยด ผสมกับน้ำมันอัลมอนด์หอม 2 ช้อนชา นำมานวดที่บริเวณขมับและต้นคอเบาๆ
- การประคบ ใช้น้ำมันหอมระเหยลาเวนเดอร์หรือมาร์จอแรม ประมาณ 2-3 หยด ผสมน้ำ นำผ้ามาจุ่มน้ำดังกล่าวแล้วบิดหมาดๆ ประคบบริเวณขมับและหน้าผากทุกวัน
ประคบร้อนและเย็น :
– วิธีที่ 1 ประคบเย็นที่หน้าผากหรือคอ ถ้าอาการไม่ดีขึ้น ให้ประคบเย็นที่หน้าผาก และประคบร้อนที่ท้ายทอย ทำสลับกันทุกๆ 2 นาที ทำได้ถึง 6 รอบ
– วิธีที่ 2 วางผ้าอุ่นที่ท้ายทอย จากนั้นนวดคอ ไหล่ และสะบัก ใช้ผ้าชุบน้ำอุ่นคลึงเบาๆ ที่ขมับ จากนั้นใช้ผ้าชุบน้ำเย็นเช็ดหน้า สามารถช่วยลดอาการไมเกรนจากความเครียดได้
นวดกดจุด : แนะนำควรนวดกดจุดใน 3 จุดนี้ เพราะสามารถช่วยบรรเทาอาการไมเกรนได้
– มือ กดตรงเนินเนื้อที่เชื่อมระหว่างหัวแม่มือและนิ้วชี้ในแนวตรงสู่กระดูกนิ้วหัวแม่มือ
– คอด้านบน ให้กดย้อนขึ้นไปทางใต้กะโหลกศีรษะข้างๆ กระดูกคอ
– เท้า กดที่เนินเนื้อที่เชื่อมต่อหัวแม่เท้ากับนิ้วชี้ กดไปทางฝ่าเท้า
ชาสมุนไพร :
– นำรากบวบกลม หรือบวมเหลี่ยมสด หนัก 1 ขีด มาต้มน้ำใส่เกลือเล็กน้อย ดื่มเป็นน้ำชา
– นำเหง้าขิงแก่มาต้มกับน้ำต้มจากต้นกะเพราแดง ดื่มแล้วสามารถช่วยลดอาการคลื่นไส้ได้
– ใช้ผล ต้น ใบ ดอก และรากของมะตูมนำมาต้มดื่ม ช่วยแก้อาการปวดศีรษะ ตาลายได้
ใครที่รู้ตัวว่ามีอาการปวดไมเกรน อย่าลืมนำวิธีบำบัดที่นำมาฝากในวันนี้ไปใช้กันนะคะ
ขอบคุณข้อมูลจาก Healthlink และ kaijeaw
“ไมเกรน” ถือว่าเป็นโรคยอดฮิตอันดับต้นๆ ของคนในยุคปัจจุบัน เมื่อมีอาการกำเริบจะทำให้หลอดเลือดภายในกะโหลกศีรษะหดตัว ในขณะที่หลอดเลือดภายนอกกะโหลดศีรษะ เช่น ที่ขมับพองตัว ส่งผลทำให้มีอาการปวดหัวตรงกลาง ตรงขมับ มึนงง เวียนศีรษะ หรือปวดหัวข้างใดข้างหนึ่ง ระยะเวลาปวดตั้งแต่ 4 – 72 ชั่วโมง ซึ่งไมเกรนเกิดจากสิ่งกระตุ้นต่างๆ
สิ่งกระตุ้นที่ทำให้เกิดอาการไมเกรนได้ มีดังต่อไปนี้
ทางตา : แสงแดด แสงจ้า แสงระยิบระยับ การใช้สายตาเคร่งเครียด หรือลายตา
ทางหู : เสียงดัง เสียงจอแจ
ทางจมูก : กลิ่นต่างๆ อาจเป็นกลิ่นน้ำหอม ควันบุหรี่ เป็นต้น
ทางลิ้น : อาหาร เช่น เครื่องในสัตว์ อาหารทะเล หมูแฮม ไส้กรอก ถั่ว กล้วยหอม ช็อกโกแลต ผงชูรส เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ กาแฟ ยาคุมกำเนิด ยานอนหลับ เป็นต้น
ทางกายภาพ : อากาศที่เย็นจัด ร้อนจัด อบอ้าว อดนอน นอนมาก ร่ายกายเหนื่อยล้า อาการเจ็บปวดต่างๆ เช่น ปวดฟัน ปวดประจำเดือน เป็นต้น
ทางใจ : ความเครียด กังวล ซึมเศร้า
วิธีบำบัดที่สามารถช่วยบรรเทาอาการปวดไมเกรน
อาหาร : คนที่ป่วยเป็นไมเกรนจะมีระบบย่อยและดูดซึมแมกนีเซียมไม่ดีเท่าที่ควร ดังนั้นจึงควรกินอาหารที่อุดมด้วยแมกนีเซียมเพื่อช่วยบรรเทาอาการไมเกรน เช่น ผักใบเขียว ฟักทอง ถั่วเมล็ดแห้ง(ยกเว้นถั่วเปลือกแข็ง เพราะมีสารแทนนินที่ยิ่งเข้าไปกระตุ้นให้เกิดไมเกรน)
น้ำมันหอมระเหย : ช่วยทำให้ระบบประสาทต่างๆ ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ปรับสมดุลของอารมณ์ และจิตใจให้ดียิ่งขึ้น ซึ่งวิธีการบำบัดสามารถทำได้ทั้งนวด และประคบ
- การนวด ผู้ป่วยที่เป็นไมเกรนควรมีน้ำมันหอมระเหยเปเปอร์มินต์ที่ช่วยทำให้รู้สึกกระปรี้กระเปร่า และลาเวนเดอร์ซึ่งช่วยให้คลายกังวล ลดความความเครียด และอาการซึมเศร้า ติดบ้านไว้เสมอ เมื่อมีอาการให้เทน้ำมันหอมระเหยทั้ง 2 ชนิด อย่างละ 1 หยด ผสมกับน้ำมันอัลมอนด์หอม 2 ช้อนชา นำมานวดที่บริเวณขมับและต้นคอเบาๆ
- การประคบ ใช้น้ำมันหอมระเหยลาเวนเดอร์หรือมาร์จอแรม ประมาณ 2-3 หยด ผสมน้ำ นำผ้ามาจุ่มน้ำดังกล่าวแล้วบิดหมาดๆ ประคบบริเวณขมับและหน้าผากทุกวัน
ประคบร้อนและเย็น :
– วิธีที่ 1 ประคบเย็นที่หน้าผากหรือคอ ถ้าอาการไม่ดีขึ้น ให้ประคบเย็นที่หน้าผาก และประคบร้อนที่ท้ายทอย ทำสลับกันทุกๆ 2 นาที ทำได้ถึง 6 รอบ
– วิธีที่ 2 วางผ้าอุ่นที่ท้ายทอย จากนั้นนวดคอ ไหล่ และสะบัก ใช้ผ้าชุบน้ำอุ่นคลึงเบาๆ ที่ขมับ จากนั้นใช้ผ้าชุบน้ำเย็นเช็ดหน้า สามารถช่วยลดอาการไมเกรนจากความเครียดได้
นวดกดจุด : แนะนำควรนวดกดจุดใน 3 จุดนี้ เพราะสามารถช่วยบรรเทาอาการไมเกรนได้
– มือ กดตรงเนินเนื้อที่เชื่อมระหว่างหัวแม่มือและนิ้วชี้ในแนวตรงสู่กระดูกนิ้วหัวแม่มือ
– คอด้านบน ให้กดย้อนขึ้นไปทางใต้กะโหลกศีรษะข้างๆ กระดูกคอ
– เท้า กดที่เนินเนื้อที่เชื่อมต่อหัวแม่เท้ากับนิ้วชี้ กดไปทางฝ่าเท้า
ชาสมุนไพร :
– นำรากบวบกลม หรือบวมเหลี่ยมสด หนัก 1 ขีด มาต้มน้ำใส่เกลือเล็กน้อย ดื่มเป็นน้ำชา
– นำเหง้าขิงแก่มาต้มกับน้ำต้มจากต้นกะเพราแดง ดื่มแล้วสามารถช่วยลดอาการคลื่นไส้ได้
– ใช้ผล ต้น ใบ ดอก และรากของมะตูมนำมาต้มดื่ม ช่วยแก้อาการปวดศีรษะ ตาลายได้
ใครที่รู้ตัวว่ามีอาการปวดไมเกรน อย่าลืมนำวิธีบำบัดที่นำมาฝากในวันนี้ไปใช้กันนะคะ
ขอบคุณข้อมูลจาก Healthlink และ kaijeaw