เมื่อวันที่ 8 พฤษภาคม นางกุลพร สุขุมาลตระกูล
นักวิชาการโภชนาการชำนาญการพิเศษ สำนักโภชนาการ กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข
(สธ.) เปิดเผยว่า การกินทุเรียนในช่วงอากาศร้อนเป็นสิ่งที่ต้องพึงระวัง
แม้ทุเรียนจะมีสารอาหารมากมาย ทั้งวิตามิน แร่ธาตุ ใยอาหาร
แต่ก็มีสารจำพวกกำมะถัน คาร์โบไฮเดรต ไขมัน น้ำตาลในปริมาณมาก
ทำให้เมื่อกินทุเรียนร่างกายจึงได้รับพลังงานสูง
ปัจจุบันมีการส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงเกษตร จัดบุฟเฟ่ต์ผลไม้ ใช้ทุเรียนเป็นจุดขาย ดังนั้น การกินทุเรียนให้มีสุขภาพดี จำเป็นต้องมีความรู้ มีความเข้าใจที่จะดูแลตนเองด้วย โดยเริ่มที่หากกินทุเรียนครึ่งเม็ดกลาง ต้องรู้ว่าร่างกายจะได้รับพลังงานประมาณ 200 กิโลแคลอรี เทียบกับกินข้าวยำปักษ์ใต้ 1 จาน หรือเท่ากับกินก๋วยเตี๋ยวปลาเส้นเล็กน้ำ 1 ชาม หรือเท่ากับข้าวราดแกงส้มผักรวม 1 จาน
นางกุลพรกล่าวอีกว่า กรมอนามัยแนะนำให้ผู้ชายวัยทำงานไม่ควรกินน้ำตาลและน้ำมันเกิน 6 ช้อนชาต่อวัน ผู้หญิงวัยทำงานไม่ควรกินน้ำตาลและน้ำมันเกินวันละ 4 ช้อนชา
อย่างไรก็ตาม หากกินทุเรียน 1 เม็ดกลาง ก็ทำให้ร่างกายได้รับน้ำตาล 4 ช้อนชา และได้รับน้ำมันถึง 3 ช้อนชาแล้ว จึงไม่เหมาะสมที่ผู้บริโภคจะกินอาหารรสหวาน สิ่งที่ควรทำคือ เลือกอาหารที่ใช้วิธีการปรุงที่ไม่ใช้น้ำมัน กะทิ และไม่หวาน ควรลดอาหารกลุ่มข้าว แป้ง และควรเดินเล่นประมาณ 30 นาที
ทั้งนี้ คนที่มีสุขภาพแข็งแรงสามารถกินได้ และปฏิบัติตัวตามข้อแนะนำเบื้องต้น ผู้ป่วยโรคเบาหวาน โรคหลอดเลือดหัวใจ ต้องกินให้น้อยที่สุด และนานๆ กินสักครั้ง สำหรับผู้ป่วยโรคไตนั้นต้องห้ามกินทุเรียนอย่างเด็ดขาด เพราะทุเรียนมีโพแทสเซียมสูง ส่งผลให้อาการของโรคทวีความรุนแรงมากขึ้นได้
ปัจจุบันมีการส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงเกษตร จัดบุฟเฟ่ต์ผลไม้ ใช้ทุเรียนเป็นจุดขาย ดังนั้น การกินทุเรียนให้มีสุขภาพดี จำเป็นต้องมีความรู้ มีความเข้าใจที่จะดูแลตนเองด้วย โดยเริ่มที่หากกินทุเรียนครึ่งเม็ดกลาง ต้องรู้ว่าร่างกายจะได้รับพลังงานประมาณ 200 กิโลแคลอรี เทียบกับกินข้าวยำปักษ์ใต้ 1 จาน หรือเท่ากับกินก๋วยเตี๋ยวปลาเส้นเล็กน้ำ 1 ชาม หรือเท่ากับข้าวราดแกงส้มผักรวม 1 จาน
นางกุลพรกล่าวอีกว่า กรมอนามัยแนะนำให้ผู้ชายวัยทำงานไม่ควรกินน้ำตาลและน้ำมันเกิน 6 ช้อนชาต่อวัน ผู้หญิงวัยทำงานไม่ควรกินน้ำตาลและน้ำมันเกินวันละ 4 ช้อนชา
อย่างไรก็ตาม หากกินทุเรียน 1 เม็ดกลาง ก็ทำให้ร่างกายได้รับน้ำตาล 4 ช้อนชา และได้รับน้ำมันถึง 3 ช้อนชาแล้ว จึงไม่เหมาะสมที่ผู้บริโภคจะกินอาหารรสหวาน สิ่งที่ควรทำคือ เลือกอาหารที่ใช้วิธีการปรุงที่ไม่ใช้น้ำมัน กะทิ และไม่หวาน ควรลดอาหารกลุ่มข้าว แป้ง และควรเดินเล่นประมาณ 30 นาที
ทั้งนี้ คนที่มีสุขภาพแข็งแรงสามารถกินได้ และปฏิบัติตัวตามข้อแนะนำเบื้องต้น ผู้ป่วยโรคเบาหวาน โรคหลอดเลือดหัวใจ ต้องกินให้น้อยที่สุด และนานๆ กินสักครั้ง สำหรับผู้ป่วยโรคไตนั้นต้องห้ามกินทุเรียนอย่างเด็ดขาด เพราะทุเรียนมีโพแทสเซียมสูง ส่งผลให้อาการของโรคทวีความรุนแรงมากขึ้นได้