อัศจรรย์มากๆ...มาดูกันว่าจะเกิดอะไรขึ้น หากคุณดื่มน้ำตอนท้องว่าง

อัศจรรย์มากๆ...มาดูกันว่าจะเกิดอะไรขึ้น หากคุณดื่มน้ำตอนท้องว่าง

ตามความเห็นของแพทย์แผนโบราณญี่ปุ่น น้ำคือวิธีการรักษาตามธรรมชาติสำหรับทุกโรค

เป็นที่รู้กันดีว่าการดื่มน้ำทำให้สุขภาพดี น้ำคือแหล่งพลังงานของชีวิต และมันเป็นสิ่งจำเป็นเพราะน้ำเป็นตัวที่ทำให้อวัยวะภายในร่างกายทั้งหมดทำงาน หากไม่มีน้ำ คุณคงจินตนาการไม่ออกว่าอะไรจะเกิดขึ้นกับกระแสเลือด การทำงานของตับ สมอง ลำไส้ กล้ามเนื้อ ระบบประสาท การเผาผลาญอาหาร การควบคุม อุณหภูมิของร่างกาย การทำงานที่เหมาะสมของข้อต่อและระบบโครงกระดูก การกำจัดสารที่เป็นอันตรายออกจากร่างกาย

เป็นที่แน่ชัดแล้วว่าหากไม่มีน้ำ ก็ไม่มีชีวิต น้ำไม่เพียงแต่ช่วยดับกระหาย แต่ยังช่วยรักษาโรคได้อีกด้วย มันช่วยทำความสะอาดและกำจัดพลังงานเชิงลบ การอาบน้ำและว่ายน้ำเป็นประจำจะช่วยคลายความตึง เครียด กล้ามเนื้อและเส้นประสาทผ่อนคลาย และปลดปล่อยเราจากพลังงานเชิงลบ มีความเชื่อว่าน้ำสามารถถอนเวทมนตร์ คาถาได้อีกด้วย

แพทย์แผนโบราณของญี่ปุ่นแนะนำให้เราดื่มน้ำทันทีหลังจากตื่นนอน และระหว่างการรักษาโรค การศึกษาทางวิทยาศาสตร์ยังช่วยยืนยันประสิทธิผลของการรักษานี้ ด้วย การรักษาโรคด้วยน้ำของญี่ปุ่นได้ผลลัพธ์ที่ดี และช่วยให้เรารักษาได้หลายโรค

มันนำมาใช้รักษา: อาการไขสันหลังอักเสบ เบาหวาน โรคกระเพาะ ปวดศีรษะ โรคหอบหืด โรคหลอดลมอักเสบ โรคข้ออักเสบ โรคลมชัก อาการเจ็บปวดในร่างกาย ปัญหาหัวใจ ไขมันในเลือด โรคไตและการติดเชื้อทางเดินปัสสาวะ ท้องเสีย อาเจียน ท้องผูก ริดสีดวงทวาร โรคตาหูจมูกและลำคอ มดลูก มะเร็ง และความผิดปกติ ของประจำเดือน



การรักษาด้วยน้ำ


จากวิธีของชาวญี่ปุ่น การใช้น้ำมารักษาโรคควรทำตามวิธีดังต่อไปนี้ : ในตอนเช้า ก่อนที่คุณจะแปรงฟัน คุณควรดื่มน้ำปริมาณ 160 มล. เป็นจำนวนสี่แก้ว ซึ่งรวมกัน ทั้งหมดจะได้ 640 มล.อย่าเพิ่งกินหรือดื่มอะไรเป็นเวลา 45 นาที หลังจากนั้นคุณก็สามารถทานอาหารเช้าได้ แต่ในอีกสองชั่วโมงถัดมาก็ห้ามกินอะไรทั้งสิ้น การรักษา โรคด้วยวิธีนี้ไม่ส่งผลในทางลบ และมันเป็นเรื่องดีหากคุณทำตามวิธีนี้ไปตลอดชีวิต เพื่อรักษาสุขภาพให้ดีและแข็งแรงตลอดไป

คุณไม่ควรดื่มน้ำเย็น ควรดื่มน้ำอุ่นเท่านั้น น้ำเย็นทำให้การย่อยช้าลง ทำลายตุ่มวิลไลในทางเดินอาหาร และเป็นสาเหตุให้เกิดโรคอ้วน

ระยะเวลาในการใช้น้ำรักษาสำหรับบางโรค


1. ความดันเลือดสูง (30 วัน)

2. โรคเบาหวาน (30 วัน)

3. โรคกระเพาะอาหาร (10 วัน)

4. ท้องผูก (10 วัน)