เป็นบุญตา!! ชาวบ้านพบพระธุดงค์ละสังขาร ในถ้ำกลางป่าลึกพร้อมปริศนาธรรมเเบบนี้ ชาวบ้านเเห่ไหว้ขอพร!!
เมื่อชาวบ้านคนหนึ่งได้เดินทางไปหาของป่าตามปกติ แต่ปรากฎว่าระหว่างที่เดินเข้าไปในถ้ำกลับพบพระธุดงค์ละสังขารอยู่ในถ้ำลึกอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติภูผาม่าน จังหวัดขอนแก่นเหตุพระธุดงค์ปลงสังขารนานกว่า 2 ปี ร่างกายยังสมบูรณ์ไม่เน่าเปื่อย พบในถ้ำลึกอุทยานแห่งชาติภูผาม่าน จังหวัดขอนแก่น
ต่อมาจึงได้แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจพร้อมด้วยหน่วยกูภัยเทวาภูผาม่าน ได้เดินทางไปชันสูตรศพ ด้วยเท้าลัดเลาะไปตามป่าเขา บางช่วงต้องปีนป่ายข้ามหุบเหวการเดินทางเป็นไปด้วยความยากลำบาก รวมระยะทางไปกลับกว่า 10 กม. ใช้เวลานานกว่า 8 ชั่วโมงจึงสามารถนำศพออกจากถ้ำได้
เมื่อถึงพบความอศจรรย์ใจเป็นอย่างยิ่ง เพราะพบศพของพระภิกษุนอนขดตัวเสียชีวิตอยู่ในถำที่คับแคบ แต่สภาพศพไม่เน่าเปื่อย และมีเชือกผูกคอโยงกับขดหินลักษณะนั่งสมาธิ
ในที่เกิดเหตุพบศพพระภิกษุขดตัวภายในถ้ำที่คับแคบ สภาพศพสวมใส่สบงจีวรอย่างเรียบร้อย เนื้อหนังแห้งรูปร่างยังสมบูรณ์ไม่เน่าเปื่อยเหมือนซากศพทั่วไป มีเชือกไนลอนสีแดงผูกคอโยงกับโขดหิน เหมือนั่งสมาธิ ไม่พบหลักฐานชื่-สกุล พบเพียงแต่กรด บาตร และเครื่องใช้ข้าวของจำเป็น คาดเสียชีวิตมานานหลายเดือนแล้ว
ทั้งนี้ชาวบ้านที่พบบอกว่าระหว่างเดินทางไปหาของป่าได้เข้าไปพบท่านละสังขารอยู่ จึงรีบไปแจ้งผู้ใหญ่บ้านและตำรวจเข้ามาตรวจสอบที่เกิดเหตุส่วนชาวบ้านที่อยู่ละแวกใกล้เคียงให้การว่า พระรูปดังกล่าวได้ธุดงค์มาปักกรดจำศีลภาวนาในป่าอุทยานแห่งนี้นานกว่า 6 ปีแล้ว
“วันใดฉันไม่อยู่ โปรดรู้ ฉันไปแล้ว ใครถามให้ตอบตามแนว ว่าไปแล้วก็แล้วกัน อย่าเสียเวลาตามหา เพียงรู้ว่าเช่นนั้น อย่ากังวลไม่สำคัญ ความจริงนั้น ฉันไม่ได้ไป-ไม่ได้มา” เป็นปริศนาธรรมที่ชาวบ้านเก็บเอาไว้นานกว่า 2 ปี พร้อมหมายเลขโทรศัพท์ของญาติพระ เจ้าหน้าที่ติดต่อไปทราบว่า พระที่มรณภาพชื่อพระทวีศักดิ์ จิตรพี อายุ 67 ปี เดิมเป็นชาว จ.พระนครศรีอยุธยา เคยทำงานเป็นวิศวกรเครื่องกลอยู่ในประเทศสหรัฐอเมริกานานกว่า 20 ปี หลังจากกลับมาอยู่เมืองไทยเกิดเบื่อหน่ายทางโลกจึงออกบวชธุดงค์ไปตามป่าเขาเพื่อแสวงหาทางหลุดพ้น
อย่างไรก็ตามต่อมาได้พบตัวญาติ คือ ต่อมา น.ส.สุวิทย์ จิตรพี อายุ 80 ปี และนายบุญชัย จิตรพี อายุ 60 ปี อยู่บ้านเลขที่ 139 ซอยพหลโยธิน แขวงลาดยาว เขตจตุจักร กทม. พี่สาวและน้องชายพระทวีศักดิ์ฯ ได้เดินทางมาพบพนักงานสอบสวนเพื่อขอรับศพไปบำเพ็ญกุศลโดยเปิดเผยว่า พระทวีศักดิ์ หรือ “หลวงหน่อย” อดีตเป็นวิศวกรเครื่องจักรทำงานอยู่ที่ประเทศสหรัฐอเมริกานานกว่า 20 ปี หลังจากเกษียณกลับมาอยู่เมืองไทย ได้อุปสมบทเมื่อปี พ.ศ.2536 ที่วัดพระขาว จ.พระนครศรีอยุธยา
โดยมีหลวงปู่ทิม พระเกจิชื่อดังเป็นพระอุปัชฌาย์ ได้ฉายาว่า “เขมะธรรมโม”
จนกระทั่งมาทราบข่าวว่าท่านละสังขาร และส่วนตัวท่านเองหลังบวชก็ออกวิเวกตามป่าเขาลำเนาไพรเพื่อหาทางสงบ หลุดพ้น และทราบล่าสุดว่าอยู่ที่อุทยานแห่งชาติภูผาม่าน
(หลวงปู่ทิม มรณภาพ สังขารไม่เน่าเปื่อย เนื้อตัวยังนิ่ม มีสีเหลืองอ่อน มีกลิ่นหอมของว่านและสมุนไพรหอมไปทั่วศาลา และที่สังเกตเห็นคือเส้นผมของหลวงปู่ทิมงอกออกมาอย่างเห็นได้ชัด )
ที่มา:Siamvariety.com
เมื่อชาวบ้านคนหนึ่งได้เดินทางไปหาของป่าตามปกติ แต่ปรากฎว่าระหว่างที่เดินเข้าไปในถ้ำกลับพบพระธุดงค์ละสังขารอยู่ในถ้ำลึกอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติภูผาม่าน จังหวัดขอนแก่นเหตุพระธุดงค์ปลงสังขารนานกว่า 2 ปี ร่างกายยังสมบูรณ์ไม่เน่าเปื่อย พบในถ้ำลึกอุทยานแห่งชาติภูผาม่าน จังหวัดขอนแก่น
ต่อมาจึงได้แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจพร้อมด้วยหน่วยกูภัยเทวาภูผาม่าน ได้เดินทางไปชันสูตรศพ ด้วยเท้าลัดเลาะไปตามป่าเขา บางช่วงต้องปีนป่ายข้ามหุบเหวการเดินทางเป็นไปด้วยความยากลำบาก รวมระยะทางไปกลับกว่า 10 กม. ใช้เวลานานกว่า 8 ชั่วโมงจึงสามารถนำศพออกจากถ้ำได้
เมื่อถึงพบความอศจรรย์ใจเป็นอย่างยิ่ง เพราะพบศพของพระภิกษุนอนขดตัวเสียชีวิตอยู่ในถำที่คับแคบ แต่สภาพศพไม่เน่าเปื่อย และมีเชือกผูกคอโยงกับขดหินลักษณะนั่งสมาธิ
ในที่เกิดเหตุพบศพพระภิกษุขดตัวภายในถ้ำที่คับแคบ สภาพศพสวมใส่สบงจีวรอย่างเรียบร้อย เนื้อหนังแห้งรูปร่างยังสมบูรณ์ไม่เน่าเปื่อยเหมือนซากศพทั่วไป มีเชือกไนลอนสีแดงผูกคอโยงกับโขดหิน เหมือนั่งสมาธิ ไม่พบหลักฐานชื่-สกุล พบเพียงแต่กรด บาตร และเครื่องใช้ข้าวของจำเป็น คาดเสียชีวิตมานานหลายเดือนแล้ว
ทั้งนี้ชาวบ้านที่พบบอกว่าระหว่างเดินทางไปหาของป่าได้เข้าไปพบท่านละสังขารอยู่ จึงรีบไปแจ้งผู้ใหญ่บ้านและตำรวจเข้ามาตรวจสอบที่เกิดเหตุส่วนชาวบ้านที่อยู่ละแวกใกล้เคียงให้การว่า พระรูปดังกล่าวได้ธุดงค์มาปักกรดจำศีลภาวนาในป่าอุทยานแห่งนี้นานกว่า 6 ปีแล้ว
ช่วง 2 ปีหลังได้หายตัวเข้าไปในป่าลึกโดยได้เขียนจดหมายทิ้งไว้กับชาวบ้าน มีข้อความว่า
“วันใดฉันไม่อยู่ โปรดรู้ ฉันไปแล้ว ใครถามให้ตอบตามแนว ว่าไปแล้วก็แล้วกัน อย่าเสียเวลาตามหา เพียงรู้ว่าเช่นนั้น อย่ากังวลไม่สำคัญ ความจริงนั้น ฉันไม่ได้ไป-ไม่ได้มา” เป็นปริศนาธรรมที่ชาวบ้านเก็บเอาไว้นานกว่า 2 ปี พร้อมหมายเลขโทรศัพท์ของญาติพระ เจ้าหน้าที่ติดต่อไปทราบว่า พระที่มรณภาพชื่อพระทวีศักดิ์ จิตรพี อายุ 67 ปี เดิมเป็นชาว จ.พระนครศรีอยุธยา เคยทำงานเป็นวิศวกรเครื่องกลอยู่ในประเทศสหรัฐอเมริกานานกว่า 20 ปี หลังจากกลับมาอยู่เมืองไทยเกิดเบื่อหน่ายทางโลกจึงออกบวชธุดงค์ไปตามป่าเขาเพื่อแสวงหาทางหลุดพ้น
อย่างไรก็ตามต่อมาได้พบตัวญาติ คือ ต่อมา น.ส.สุวิทย์ จิตรพี อายุ 80 ปี และนายบุญชัย จิตรพี อายุ 60 ปี อยู่บ้านเลขที่ 139 ซอยพหลโยธิน แขวงลาดยาว เขตจตุจักร กทม. พี่สาวและน้องชายพระทวีศักดิ์ฯ ได้เดินทางมาพบพนักงานสอบสวนเพื่อขอรับศพไปบำเพ็ญกุศลโดยเปิดเผยว่า พระทวีศักดิ์ หรือ “หลวงหน่อย” อดีตเป็นวิศวกรเครื่องจักรทำงานอยู่ที่ประเทศสหรัฐอเมริกานานกว่า 20 ปี หลังจากเกษียณกลับมาอยู่เมืองไทย ได้อุปสมบทเมื่อปี พ.ศ.2536 ที่วัดพระขาว จ.พระนครศรีอยุธยา
โดยมีหลวงปู่ทิม พระเกจิชื่อดังเป็นพระอุปัชฌาย์ ได้ฉายาว่า “เขมะธรรมโม”
จนกระทั่งมาทราบข่าวว่าท่านละสังขาร และส่วนตัวท่านเองหลังบวชก็ออกวิเวกตามป่าเขาลำเนาไพรเพื่อหาทางสงบ หลุดพ้น และทราบล่าสุดว่าอยู่ที่อุทยานแห่งชาติภูผาม่าน
(หลวงปู่ทิม มรณภาพ สังขารไม่เน่าเปื่อย เนื้อตัวยังนิ่ม มีสีเหลืองอ่อน มีกลิ่นหอมของว่านและสมุนไพรหอมไปทั่วศาลา และที่สังเกตเห็นคือเส้นผมของหลวงปู่ทิมงอกออกมาอย่างเห็นได้ชัด )
ที่มา:Siamvariety.com