แชร์บอกได้บุญ! ถึงไม่กินเค็มก็เป็น ‘โรคไต’ ได้...อย่าทำแบบนี้ถ้าไม่อยากฟอกไตตอนแก่
เมื่อพูดถึงโรคไต ใครๆก็บอกว่าเป็นเพราะ “กินเค็ม” มากเกินไป หลายคนจึงคิดว่าถ้าเราลดอาหารเค็มให้น้อยลง ก็คงช่วยให้ห่างไกลโรคนี้ได้แน่ๆ ซึ่งในความเป็นจริงแล้วไม่ใช่เลย เพราะการที่คุณไม่กินเค็ม ก็ยังสามารถเป็นโรคไตได้
สำหรับคนที่ปรุงก๋วยเตี๋ยวทุกชามแม้จะไม่ได้ชิม เติมน้ำตาลมากๆ พริกพูนๆ น้ำส้มสัก 2-3 ช้อน น้ำปลาอีก 2-3 เหยาะ คุณจะเสี่ยงต่อการเป็นโรคไตได้สูงมาก
ทั้งนี้เพราะไม่ใช่แค่รสเค็มจัดเพียงเท่านั้น แต่อาหารรสจัดรสอื่นๆ ทั้งหวานจัด เผ็ดจัด หรือมันจัด ก็ล้วนเป็นอาหารที่ทำให้ไตทำงานหนักมากขึ้นทั้งนั้น
การกินอาหารรสจัดบ่อยๆจึงมีส่วนทำให้เป็นโรคไตได้เช่นเดียวกันกับการทานอาหารรสเค็มนั่นเอง
การไม่ออกกำลังกายเป็นสาเหตุของหลายๆ โรค อย่าคิดว่าต้องรอให้อ้วนก่อนถึงจะออกกำลังกาย เพราะความเป็นจริงแล้วโรคร้ายสามารถเข้ามาหาคุณได้ทุกเมื่อโดยไม่ต้องรอให้อ้วน
โรคร้ายที่ว่ามานี้ ก็เช่นโรคอ้วน โรคไขมันอุดตันเส้นเลือด โรคไขมันพอกตับ โรคเส้นเลือดอุดตัน โรคหัวใจ และโรคไตก็เป็นหนึ่งในโรคที่ว่านี้ด้วยเช่นกัน
การดื่มน้ำน้อยเป็นสาเหตุสำคัญของโรคไต เพราะการที่ไตฟอกของเสียในร่างกาย จำเป็นต้องใช้น้ำเป็นตัวพาไปสู่การกรอง จนออกมาในรูปของปัสสาวะนั่นเอง
และการดื่มน้ำก็ต้องมีความพอดี เพราะหากดื่มน้ำมากเกินไป ไตก็จะทำงานหนักเกินไป แต่หากดื่มน้ำน้อยมากเกินไป ก็จะทำให้ปัสสาวะมีสีเข้ม ซึ่งไม่ดีต่อไตและกระเพาะปัสสาวะเสียเลย
คนบ้างานทั้งหลายอ่านเอาไว้เลย การที่คุณทำงานอย่างต่อเนื่องจนลืมการพักผ่อน เป็นสาเหตุสำคัญอีกหนึ่งสาเหตุของการสูญเสียไตในอนาคต
เพราะเมื่อร่างกายขาดการพักผ่อนอย่างเต็มที่และเพียงพอ อวัยวะภายในของร่างกายก็จะไม่ได้รับการฟื้นฟู และซ่อมแซมตัวเองอย่างเต็มที่ ซึ่งเมื่ออวัยวะที่คอยฟอกของเสียในร่างกายอย่างไตไม่ได้หยุดทำงานในเวลาที่เหมาะสม ก็อาจจะทำให้ไตเสื่อมสภาพลงได้ง่ายนั่นเอง
จริงอยู่ที่ความสำเร็จต้องแลกมากับความเอาใจใส่ แต่ความเอาใจใส่ที่มากเกินไปจะนำไปสู่ความเครียดสะสม และความเครียดนี้แหละที่คอยทำร้ายตัวคุณอยู่เรื่อยมา
ลองสังเกตดู...หากคุณเครียดมากๆ ร่างกายก็จะพักผ่อนได้ไม่เต็มที่ นอนไม่ค่อยหลับ ร่างกายหายใจเอาออกซิเจนเข้าร่างกายไปได้ไม่สุด เมื่อออกซิเจนเข้าไปเลี้ยงส่วนต่างๆ ได้ไม่เต็มที่ ไตก็จะได้รับผลกระทบจากความเครียดนั้นๆด้วย
ชีวิตที่เร่งรีบทำให้คุณทานอาหารสำเร็จรูปมากขึ้น ซึ่งแม้ว่าคุณจะบอกว่าคุณไม่ใช่คนทานเค็ม แต่หากชีวิตของคุณยังใช้ชีวิตวนเวียนอยู่กับบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปหรือข้าวกล่องในร้านสะดวกซื้อ รวมไปถึงอาหารกระป๋องต่างๆ พร้อมๆไปกับการดื่มน้ำอัดลม โซดา และเครื่องดื่มบางประเภท
สิ่งเหล่านี้จะเติมโซเดียมเข้าไปในร่างกายของคุณอย่างต่อเนื่อง และเพิ่มเป็นปริมาณสูงโดยที่คุณไม่รู้ตัว ดังนั้น ถ้าลดได้ก็ลดๆลงหน่อยนะ
ความดันโลหิตสูงเกี่ยวข้องกับโรคไตอย่างมีนัยสำคัญ ยิ่งมีความดันสูงเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว ก็จะยิ่งมีโอกาสที่จะเป็นโรคไตสูงตามมาด้วย
และหากปล่อยให้เป็นความดันสูงต่อไปเรื่อยๆ โดยไม่รีบรักษา ความดันโลหิตสูงนี้จะทำลายเส้นเลือดที่ไต ทำให้ไตถูกทำลายหรือเป็น “ไตวายชั่วคราว” ได้
ข้อมูลจาก http://www.thaijobsgov.com/jobs/103113
เมื่อพูดถึงโรคไต ใครๆก็บอกว่าเป็นเพราะ “กินเค็ม” มากเกินไป หลายคนจึงคิดว่าถ้าเราลดอาหารเค็มให้น้อยลง ก็คงช่วยให้ห่างไกลโรคนี้ได้แน่ๆ ซึ่งในความเป็นจริงแล้วไม่ใช่เลย เพราะการที่คุณไม่กินเค็ม ก็ยังสามารถเป็นโรคไตได้
ถ้ายังไม่อยากต้องสูญเสียอวัยวะสำคัญ มาดูสาเหตุของการเป็นโรคไตเพิ่มเติมกันดีกว่า
1. ชอบนัก...อาหารรสจัด
สำหรับคนที่ปรุงก๋วยเตี๋ยวทุกชามแม้จะไม่ได้ชิม เติมน้ำตาลมากๆ พริกพูนๆ น้ำส้มสัก 2-3 ช้อน น้ำปลาอีก 2-3 เหยาะ คุณจะเสี่ยงต่อการเป็นโรคไตได้สูงมาก
ทั้งนี้เพราะไม่ใช่แค่รสเค็มจัดเพียงเท่านั้น แต่อาหารรสจัดรสอื่นๆ ทั้งหวานจัด เผ็ดจัด หรือมันจัด ก็ล้วนเป็นอาหารที่ทำให้ไตทำงานหนักมากขึ้นทั้งนั้น
การกินอาหารรสจัดบ่อยๆจึงมีส่วนทำให้เป็นโรคไตได้เช่นเดียวกันกับการทานอาหารรสเค็มนั่นเอง
2. ไม่ออกกำลังกาย
การไม่ออกกำลังกายเป็นสาเหตุของหลายๆ โรค อย่าคิดว่าต้องรอให้อ้วนก่อนถึงจะออกกำลังกาย เพราะความเป็นจริงแล้วโรคร้ายสามารถเข้ามาหาคุณได้ทุกเมื่อโดยไม่ต้องรอให้อ้วน
โรคร้ายที่ว่ามานี้ ก็เช่นโรคอ้วน โรคไขมันอุดตันเส้นเลือด โรคไขมันพอกตับ โรคเส้นเลือดอุดตัน โรคหัวใจ และโรคไตก็เป็นหนึ่งในโรคที่ว่านี้ด้วยเช่นกัน
3. ดื่มน้ำน้อย หรือมากเกินไป
การดื่มน้ำน้อยเป็นสาเหตุสำคัญของโรคไต เพราะการที่ไตฟอกของเสียในร่างกาย จำเป็นต้องใช้น้ำเป็นตัวพาไปสู่การกรอง จนออกมาในรูปของปัสสาวะนั่นเอง
และการดื่มน้ำก็ต้องมีความพอดี เพราะหากดื่มน้ำมากเกินไป ไตก็จะทำงานหนักเกินไป แต่หากดื่มน้ำน้อยมากเกินไป ก็จะทำให้ปัสสาวะมีสีเข้ม ซึ่งไม่ดีต่อไตและกระเพาะปัสสาวะเสียเลย
4. ทำงานหนักหามรุ่งหามค่ำ
คนบ้างานทั้งหลายอ่านเอาไว้เลย การที่คุณทำงานอย่างต่อเนื่องจนลืมการพักผ่อน เป็นสาเหตุสำคัญอีกหนึ่งสาเหตุของการสูญเสียไตในอนาคต
เพราะเมื่อร่างกายขาดการพักผ่อนอย่างเต็มที่และเพียงพอ อวัยวะภายในของร่างกายก็จะไม่ได้รับการฟื้นฟู และซ่อมแซมตัวเองอย่างเต็มที่ ซึ่งเมื่ออวัยวะที่คอยฟอกของเสียในร่างกายอย่างไตไม่ได้หยุดทำงานในเวลาที่เหมาะสม ก็อาจจะทำให้ไตเสื่อมสภาพลงได้ง่ายนั่นเอง
5. เครียดเกินกว่าเหตุ
จริงอยู่ที่ความสำเร็จต้องแลกมากับความเอาใจใส่ แต่ความเอาใจใส่ที่มากเกินไปจะนำไปสู่ความเครียดสะสม และความเครียดนี้แหละที่คอยทำร้ายตัวคุณอยู่เรื่อยมา
ลองสังเกตดู...หากคุณเครียดมากๆ ร่างกายก็จะพักผ่อนได้ไม่เต็มที่ นอนไม่ค่อยหลับ ร่างกายหายใจเอาออกซิเจนเข้าร่างกายไปได้ไม่สุด เมื่อออกซิเจนเข้าไปเลี้ยงส่วนต่างๆ ได้ไม่เต็มที่ ไตก็จะได้รับผลกระทบจากความเครียดนั้นๆด้วย
6. ทานอาหารสำเร็จรูป
ชีวิตที่เร่งรีบทำให้คุณทานอาหารสำเร็จรูปมากขึ้น ซึ่งแม้ว่าคุณจะบอกว่าคุณไม่ใช่คนทานเค็ม แต่หากชีวิตของคุณยังใช้ชีวิตวนเวียนอยู่กับบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปหรือข้าวกล่องในร้านสะดวกซื้อ รวมไปถึงอาหารกระป๋องต่างๆ พร้อมๆไปกับการดื่มน้ำอัดลม โซดา และเครื่องดื่มบางประเภท
สิ่งเหล่านี้จะเติมโซเดียมเข้าไปในร่างกายของคุณอย่างต่อเนื่อง และเพิ่มเป็นปริมาณสูงโดยที่คุณไม่รู้ตัว ดังนั้น ถ้าลดได้ก็ลดๆลงหน่อยนะ
7. ความดันโลหิตสูง
ความดันโลหิตสูงเกี่ยวข้องกับโรคไตอย่างมีนัยสำคัญ ยิ่งมีความดันสูงเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว ก็จะยิ่งมีโอกาสที่จะเป็นโรคไตสูงตามมาด้วย
และหากปล่อยให้เป็นความดันสูงต่อไปเรื่อยๆ โดยไม่รีบรักษา ความดันโลหิตสูงนี้จะทำลายเส้นเลือดที่ไต ทำให้ไตถูกทำลายหรือเป็น “ไตวายชั่วคราว” ได้
เมื่อรู้อย่างนี้แล้ว ใครที่อยากมีอวัยวะครบ 32 แบบสมบูรณ์ไปตลอดชีวิต ก็ควรหลีกเลี่ยงพฤติกรรมและการรับประทานอาหารที่ไม่ดีดังกล่าวนี้ ก่อนที่คุณจะเป็นโรตไต แล้วต้องเสียทั้งเงิน ทั้งเวลาไปฟอกไตในทุกวันนะคะ
ข้อมูลจาก http://www.thaijobsgov.com/jobs/103113