ผ่อนบ้านแบบฉลาด จาก 30 เหลือแค่ 23 ปี แถมได้เงินก้อนกลับมาใช้อีก อย่าพลาดเรื่องนี้เชียว!

ใครที่กำลังผ่อนบ้านอยู่ แล้วอยากหมดหนี้เร็วๆ ลองอ่านเคล็ดลับที่เรานำมาฝากกันในวันนี้ บอกเลยว่าจะช่วยแบ่งเบาภาระในการผ่อนบ้านได้หลายปีที่สำคัญได้เงินก้อนกลับมาใช้อีกด้วย เรามาดูเคล็ดลับกันเลย

    – ผ่อนบ้านให้หมดไวๆ และต้องรู้จักการขอลดดอกเบี้ย
    – ได้เงินคืนมาบางส่วน อันที่จริงมันก็คือเงินของเรานั่นแหละที่ช่วยค่าประกันไปในตอนแรก ที่ถูกหว่านล้อมห้าทำ แต่ถ้าใครไม่ได้ทำก็ปล่อยผ่าน

     1.ย่นเวลา โดยปกติแล้วธรรมเนียมธนาคารห้ามโปะหนี้ภายใน 3 ปี ซึ่งเรานำช่องโหว่ตรงนี้มาใช้ เมื่อผ่อนครบ 3 ปีแล้วก็ขอลดดอกเบี้ยกับธนาคาร ถ้าไม่ยอมก็บอกไปเลยว่าขอรีไฟแนนซ์กับธนาคารอื่น(หมายความว่าไปเป็นหนี้ธนาคารอื่นแทน โดยให้เขามาใช้นี้จุดนี้ให้เรา) เมื่อพูดแบบนี้ออกไปแล้วรับรองว่าธนาคารต้องพยายามรักษาลูกหนี้เอาไว้ โดยการยอมลดดอกเบี้ยให้


วิธีการ

     ก็ง่ายแสนง่าย นั่นคือ ไปขอลดดอกเบี้ยดื้อๆเลย เทคนิคคือใช้คำพูดที่คุณจะได้เปรียบ บอกไปเลยว่าคุณเป็นลูกค้าชั้นดี และผ่อนชำระครบ 3 ปีแล้ว อยากจะขอลดหย่อนดอกเบี้ย ถ้าไม่ได้ก็ตั้งใจว่าจะรีไฟแนนซ์ย้ายธนาคาร เพราะได้ทำการเช็คดอกเบี้ยมาแล้ว 4-5 ธนาคาร พูดให้เขารั้งคุณไว้ให้ได้เพราะถ้าเสียลูกหนี้ไปก็เท่ากับว่าเขาเสียผลประโยชน์เช่นกัน

     จากนั้นธนาคารจะพยายามลองเชิงคุณ ว่าได้เช็คดอกเบี้ยมาจริงหรือเปล่า ในจุดนี้คุณควรเช็คมาจริงๆ และจดใส่กระดาษเอาไว้เลย ถ้าเขาถามมาจะได้ตอบถูก จริงๆแล้วธนาคารรุ้เรทคู่แข่งอยู่แล้วเพียงแต่ถามหยั่งเชิงคุณดูเท่านั้น คุณบอกธนาคารมาสัก 1 แห่ง จากนั้นเจ้าหน้าที่จะเสนอดอกเบี้ยให้รคุณใหม่ แต่ก็ยังสูงกว่าคู่แข่งที่คุณพูดมาอยู่ดี แต่ก็แค่เล็กน้อย

     การที่เราจารีไฟแนนซ์ง่ายแต่ก็มีค่าใช่จ่ายเช่นกัน บางคนขี้เกียจยุ่งยากอาจจะรับข้อเสนอให้จบๆ ไป ถึงดอกเบี้ยใหม่จะสูงกว่าที่อื่นแต่ก็ยังถูกกว่าเดิมอยู่ดี จริงมะ นับว่าเป้าหมายของคุณสำเร็จไป 1 อ้อ และคุณอย่าลืมไปติดต่อก่อนจะครบ3 ปี สัก 1-2 เดือนล่วงหน้าด้วยนะ ถามย้ำไปเลยว่าคุณจะเริ่มดอกเบี้ยใหม่ได้เมื่อไหร่

     ปล. ดอกเบี้ยของธนาคารอื่น 4-5 ธนาคารที่แนะนำให้เช็คและจดไปว่าที่ไหนต่ำสุด ให้คุณคำนวณเลยว่าในระยะเวลาอีก 3 ปีที่จะผ่อนข้างหน้าต่ำสุด ไม่ใช่ดูแค่ว่า 0% เวลา 3 เดือนแรกจากนั้นแพง แต่ให้คำนวณดูที่ระยะ 3 ปี เพราะหลังจากนั้นทุกๆ 3 ปี คุณก็ใช้ช่องโหว่เดิมนี่แหละมาขอลดดอกเบี้ยได้อีก (จึงแนะนำให้ดูที่ 3 ปี ไง) ทั้งนี้ ยอดหนี้ต้องเกิน 1 ล้านบาทเท่านั้นนะตอนไปขอลดดอกเบี้ย (สุดท้ายก็แล้วแต่การเจรจนกับธนาคาร)

     ทางที่ดีก่อนไปต่อรองคุณควรชำระบัตรให้หมด หรืออย่างน้อยให้บัตรเครดิตของธนาคารนั้นๆ เป็น 0 โดยการไปรวมหนี้ไว้ที่บัตรของธนาคารอื่นก่อนกก็ได้

     2. ได้รับเงินคืนเมื่อผ่อนหมด กรณีที่คุณทำประกันเมื่อตอนกู้เงินซื้อบ้าน สมมุติว่าคุณผ่อนบ้านจาก 30 ปี แต่ผ่อนไปแล้ว 17 ปี จากนั้นจะมีเวลา 13 ปีเปล่าๆ ที่ประกันไม่ต้องคุ้มครองแล้ว คุณก็ทำการเคลมประกันขอเงินในส่วนเวลา 13 ปีคืนมา โดยให้เหตุผลว่าประกันได้คุ้มครองไปตั้งแต่ 17 ปีแรกแล้ว ที่เหลือก็ไม่จำเป็น ขอเปลี่ยนเวลา 13 ปีนั้นมาเป็นเงินสดซะดีๆ

     หมายเหตุ วงเงินที่ได้คืนอาจจะเป็นหลักหมื่น ทางธนาคารอาจจะต่อรอกับคุณว่า ไม่ให้เงินแต่ขอเปลี่ยนเป็นคุ้มครองแทนได้หรือไม่ ซึ่งก็คือเงินหลังจากที่คุณเสียชีวิตนั่นแหละ เพราะเหตุผลที่ธนาคารทำประกันให้คุณก็เพราะกลัวคุณเสียชีวิตก่อนผ่อนบ้านหมด คนที่ได้รับผลประโยชน์ก็คือธนาคารทีนี้ถ้าคุณรับเงื่อนไขนี้คุณก็เปลี่ยนชื่อผู้รับผลประโยชน์เป็นคนที่คุณอยากให้เสีย (เปลี่ยนชื่อในกรมธรรม์) แต่ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของคุณว่าจนจะเลือกทางไหนลองชั่งน้ำหนักดูดีๆ

    โอ้โห! นอกจากเรื่องนี้แล้วยังมีบทความดีๆ แบบนี้อีกมั้ยเนี่ย อ่านจบอย่าเก็บความรู้วู้เดียว โปรดแชร์ให้ทุกคนได้รู้เท่าทันธนาคารด้วยเถอะ

ขอขอบคุณที่มาจาก : naarn.com