ถือเป็นรักแรก ! ลุงโดนสาวจับดูดนม รูดทรัพย์ ประกาศผ่านสื่อ พร้อมให้อภัย อยากจะขอมาดูแล

จากกรณีนายเบิ้ม (นามสมมุติ) อายุ 70 ปี บ้านอยู่ อ.พุทไธสง จ.บุรีรัมย์ ซึ่งพิการนิ้วมือขวาด้วน อาชีพรับซื้อของเก่าขาย เดินทางเข้าแจ้งความกับ พ.ต.ต.ภาสกร โพธิขำ สารวัตร(สอบสวน) สภ.พุทไธสง จ.บุรีรัมย์ ว่าถูกผู้หญิงอายุประมาณ 45 ปี สูงประมาณ 150 ซ.ม. เข้ามาตีสนิทแล้วชักชวนไปร่วมหลับนอนบริเวณป่าละเมาะ ห่างจากตัวอำเภอพุทไธสงประมาณ 2 ก.ม.

แต่ปรากฎว่าผู้หญิงคนดังกล่าวจับดูดหัวนมจนสลบเหมือดถูกสร้อยคอทองคำหนัก 2 สลึง 1 เส้น ลอตเตอรี่ 18 ใบ และเงินสดที่เก็บสะสมจากเบี้ยผู้พิการอีก 7,700 บาท รวมทั้งสิ้นเกือบ 30,000 บาทหลบหนีไป เหตุเกิดเมื่อวันที่ 16 พ.ค.ที่ผ่านมา

ความคืบหน้าคดีนี้ เมื่อวันที่ 18 พ.ค. ที่สภ.พุทไธสง จ.บุรีรัมย์ นายเบิ้ม (นามสมมุติ) อายุ 70 ปีเดินทางเข้าติดตามความคืบหน้าของคดีพร้อมให้การเพิ่มเติมกับ พ.ต.ต.ภาสกร โพธิขำ สารวัตร(สอบสวน) โดยนายเบิ้ม กล่าวว่า ตนไม่เคยมีแฟนมาก่อนในชีวิต อาศัยอยู่กับญาติ ได้เงินจากเบี้ยคนพิการและเบี้ยคนชรา และหาของเก่าขายได้เงินก็ฝากธนาคารเอาไว้ยามจำเป็น สาเหตุที่ยอมไปกับหญิงคนดังกล่าวนั้น เกิดขึ้นระหว่างตนออกมาจากธนาคารหลังมาเบิกเงิน แล้วผู้หญิงสาวก็เข้ามาตีสนิทอ้างว่าไม่มีสามีจะชวนไปกินข้าวด้วยกัน อยากจะคุยด้วย จึงตัดสินใจนั่งซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์ไปด้วย

“ระหว่างที่นั่งคุยกันที่บึงสระบัวฝ่ายหญิงบอกว่าเห็นลุงแล้วชอบ มีความผูกพัน อยากจะขอมาดูแลในชีวิตบ้านปลาย ผมในฐานะที่ไม่เคยมีแฟนมาก่อนในชีวิต ก็เคลิ้มไปกับคำพูดและบอกตอบรับตามคำพูดของหญิงสาว ก่อนจะแก้เสื้อผ้าหวังมีเพศสัมพันธ์กันแต่ไม่สำเร็จ เพราะนกเขาของตัวเองไม่ขัน มาถึงตอนนี้ความรู้สึกของผมไม่ได้มีความแค้นกับเขา แต่มีความรู้สึกช้ำใจมากกว่า หากสาวคนนั้นจะกลับมาทำตามคำสัญญาที่ว่าไว้ ก็พร้อมที่จะให้อภัย หากถูกอกถูกใจกันก็อาจจะคบหากันอยู่กินด้วยกัน เพราะผมก็ไม่มีลูกไม่มีภรรยา ” นายเบิ้มระบุ

ขณะที่ตำรวจชุดสืบ สภ.พุทไธสง เร่งสืบสวนหาเบาะแสผู้หญิงคนดังกล่าว พร้อมเร่งตรวจสอบภาพจากกล้อวงวงจรปิดเพื่อหารูปพรรณ และลักษณะของรถจักรยานยนต์ตามเส้นทางที่ขับจากตลาดมาถึงป่าละเมาะ ส่วนกรณีที่คาดว่านายเบิ้มจะถูกมอมยานั้น เบื้องต้นสันนิฐานว่าไม่น่าจะถูกมอมยา เนื่องจากนายเบิ้มให้การรู้สึกตัวดีตลอดที่เกิดเหตุการณ์ อาจจะเคลิ้มเพราะฝ่ายหญิงพยายามมีเพศสัมพันธ์มากกว่า โดยน่าจะเป็นการฉวยโอกาสลงมือช่วงชุลมุนมากกว่า




ที่มา https://www.khaosod.co.th/around-thailand/news_353576