สะเทือนใจ! พ่อเฒ่าราชการบำนาญลูกหลานทิ้ง หลังยกมรดกให้ลูกหมดแล้ว ก่อนตายทิ้งซองจดหมาย สิ่งที่อยู่ในนั้น เพื่อนบ้านถึงกับน้ำตาไหล

……. บ่อยครั้งที่คุณลุงจะบ่นถึงคุณป้า ซึ่งเราไม่เคยเจอตัวจริง ได้เห็นแต่ในรูป เพราะท่านเสียไปหลายปีแล้ว ก่อนที่เราจะได้ย้ายมาอยู่ที่นี่ช่วงเทศกาล ปีใหม่ สงกรานต์ เมื่อบ้านอื่น ๆ เขามีลูก ๆ มาเยี่ยม เราเห็นคุณลุงนั่งเหงาเพียงลำพังเราก็ซื้อของขวัญ ของกิน ของใช้ บางครั้งก็เป็นพวกผลไม้บ้าง เครื่องดื่มบ้าง ไปไหว้

…..ลุงก็ดีใจ ให้ศิลให้พร กันยกใหญ่…..แล้วก็บ่น รำพึง รำพัน ถึงลูก ๆ …..น้ำตาไหล นั่งมองแต่ประตูหน้าบ้านรอว่าเมื่อไร จะมีรถของลูก ๆ กลับมาเยี่ยมบ้าง …..หลายปีมานี้ คุณลุงก็ได้แต่รอ…..เราก็ได้แค่ปลอบว่าลูก ๆ เขาคงติดธุระ วันไหนเขาว่างก็คงมาเยี่ยม ไม่ต้องคิดมาก เสียสุขภาพไปเปล่า ๆ

…..ที่หลังบ้านคุณลุง มีต้นมะม่วงพันธุ์ดีอยู่หลายต้น มีต้นหนึ่งที่ลูกโต หวานอร่อยเป็นนิเศษ เราไปช่วยลุงเก็บเป็นประจำ และคุณลุงก็จะแบ่งมาให้ทุกครั้ง

…….ลุงจะคัดลูกสวย ๆ เก็บใส่กล่องดูแลเป็นพิเศษ….. เก็บไว้รอลูก ๆ อยากให้ลูกได้กินของดี ๆ หลายครั้งหลายหน เราเห็นคุณลุงรอลูก ๆจนมะม่วงเน่าเสียไป ไม่รู้กี่หน ต่อกี่หน

…..หลายปีมานี้ ก็ไม่เคยเห็นลูก ๆ กลับมากินมะม่วงที่พ่อบ่มไว้แม้แต่ครั้งเดียวมีที่แปลงหนึ่งที่ไม่ได้ใช้ประโยชน์ คุณลุงบอกว่าอยากขาย ให้เราช่วยดำเนินการให้หน่อย เราก็เขียนป้ายไปติด แล้วลงประกาศให้ ….. 5 เดือนเศษ ๆ หลังจากประกาศขาย ในที่สุดก็มีผู้สนใจและก็ขายได้ในที่สุด ในราคา 1 ล้านบาท …เมื่อได้เงินมา สิ่งแรกที่คุณลุงพูดถึงคือ

….. คิดถึงลูก ๆ ถ้ารู้ว่าพ่อขายที่ได้คงดีใจ ลุงบอกว่าจะแบ่งเงินให้ลูกทั้ง 3 คน เท่า ๆ กัน

…..วันรุ่งขึ้น ลุงก็มาหาเราแต่เช้า บอกว่าวันนี้ ขอแรงหน่อย ช่วยพาลุงไปธนาคารที จะไปโอนเงินให้ลูก เราก็พาไป วันนั้นเป็นลูกค้ารายแรกของธนาคาร

…..คุณลุงโอนเงิน ให้ลูกคนละ 3 แสนบาท …..

….. เมื่อกลับมา จอดรถส่งลุงหน้าบ้าน….. ก่อนลงจากรถ คุณลุงหยิบเงิน ในกระเป๋า 1 แสนบาทยื่นส่งให้ บอกว่า…..เอานี่ ลุงให้…….เรารีบ ปฏิเสธ บอกว่า ไม่เป็นไรหรอกครับลุง ไม่ต้องให้ผมลุงเก็บไว้ใช้เถอะ ให้ลูก ๆ ไปเกือบหมดแล้ว

….. ลุงบอกว่า เอาไปเถอะ ลุงได้รับบำนาญทุกเดือน ไม่ได้เดือดร้อนอะไร ที่แปลงนี้ที่ขายได้ ก็เพราะเราต้องรับโทรศัพท์และพาคนไปดูที่ หลายเดือนมานี้ไม่รู้ขับรถไป-กลับกี่รอบแล้ว และอีกอย่าง ตลอดเวลาที่ผ่านมา ลุงก็ได้แต่รบกวน ไม่เคยได้ให้อะไร ตอบแทนบ้างเลยพ่อหนุ่มไม่ใช่ลูก ไม่ใช่หลาน แต่ก็ยังอุตส่าห์เสียเวลาเป็นธุระจัดการเรื่องราวให้สารพัด รับไว้เถอะ ลุงอยากให้จริง ๆ ถ้าไม่รับลุงจะเสียใจนะ

……เราก็ไหว้ ขอบคุณครับลุง กลับมานอนคิด ไตร่ตรอง รู้สึกไม่สบายใจ ดึก ๆ จึงหยิบเงินไปหาลุงอีกรอบ…..แต่ลุงไม่รับคืนและยืนยันว่าตั้งใจจะให้เราจริง ๆ …..อีก 2 วันถัดมา มีรถยนต์มาจอดที่บ้านลุง ลูกสองคน คนเล็กและคนกลางมาเยี่ยมและทวงถามเราถึงเงิน 1 แสนบาท พูดจาประมาณว่า…..เราไปหลอกเอาเงินคนแก่ เรารีบเข้าไปในบ้านหยิบเงิน 1 แสน เดินไปที่บ้านลุง แล้วคืนเงินให้ลุง ลุงปฏิเสธและพยายามอธิบายให้ลูก ๆ ฟัง แต่ทั้งสองคนไม่ยอม เราจึงวางเงินไว้ แล้วเดินออกมา

ก่อนตะวันตกดิน ได้ยินเสียงรถขับออกไป ….. สักพักลุงก็มาหา เล่าว่าสองคนนั้นแบ่งเงินกันคนละ 5 หมื่นแล้วก็ลากลับไปแล้ว คุณลุงกล่าวคำขอโทษอย่างที่สุด….. ลุงน้ำตาไหล บอกว่าเสียใจ ไม่คิดว่าลูก ๆ จะเป็นไปถึงขนาดนี้ 
…..ลุงบอกว่าจะเอาเงินบำนาญที่ได้รับทุกเดือนมาทยอยคืนให้ จนกว่าจะครบ 1 แสนบาท…..เราบอกว่าไม่เป็นไรหรอกครับลุง ไม่ต้องทำอย่างนั้น….

….. อีก 3 วัน เกือบ ๆ เที่ยงคืน ลุงมาที่บ้าน พร้อมกับลูกชายคนโต

” เมื่อ 3 วันที่แล้ว พ่อโทรฯ ไปเล่าเรื่องให้ฟัง พี่ก็ไม่สบายใจ…. พอดีที่ทำงานส่งไปสัมมนาหลายวันออกมาไม่ได้ พอเสร็จธุระ ก็รีบขับรถมาเลย มา
ถึงซะดึก….พี่ต้องขอโทษแทนน้อง ๆ สองคนด้วย เสียมารยาทจริง ๆ เดี๋ยวต้องคุยกันเป็นเรื่องเป็นราวสักครั้ง อายุก็มากแล้วแต่ก็ไม่รู้จักโต แย่จริง ๆ

….. เอาอย่างนี้ ขอเลขบัญชีธนาคารให้พี่ได้ไหม เดี๋ยวกลับไปพี่จะรีบโอนเงินมาคืนให้ ”
“ไม่ต้องหรอกครับ ไม่เป็นไร….. เราปฏิเสธไป”
วันถัดมาเมื่อลูกชายคนโตกลับไป ลุงเล่าให้ฟังด้วยความดีใจ
” เจ้าใหญ่มันบอกว่า วางแผนไว้แล้วอีก 5 ปี จะย้ายมาทำงานที่บ้าน จะพาลูกมาเมียมาอยู่ที่นี่ ”
เราสังเกตุเห็นแววตาอันสดใส ของคุณลุง…บ่งบอกถึงความ ปิติ ยินดี อย่างที่สุด
ดีใจด้วยครับลุง ต่อไปลุงจะได้ไม่เหงาแล้ว…
ตั้งแต่วันนั้นจนถึงวันนี้ เกือบ 4 ปีแล้วซินะ….. ที่ลุงนับวันรอว่าจะมีลูก ๆ กลับมาอยู่ด้วย เราเห็นปฏิทิน ที่คุณลุงขีดฆ่า วันแล้ววันเล่า….. เดือน
แล้วเดือนเล่า….. ปีแล้วปีเล่า…..และสุดท้าย…..
ลุงน่าจะอดทนรออีกนิด .. อีกนิดเดียวเองครับลุง
ในห้องไอซียู เรากับพี่ใหญ่นั่งอยู่คนละข้างเตียงคนไข้…..ช่วงเวลา สุดท้ายของชีวิต
คุณลุงขยับนิ้วมือ เรากับพี่ใหญ่เอื้อมมือไปจับมือลุง…..ดวงตาค่อย ๆ ปิดลงช้า ๆ
คุณลุงจากไปด้วยอาการสงบ ….
หลังงานศพ เสร็จสิ้น…..
ค่ำคืนนั้น พี่ใหญ่มาหาเราที่บ้าน ยื่นถุงกระดาษส่งให้ บอกว่า…..
“พ่อฝากไว้ให้ พ่อกำชับไว้ตั้งแต่ก่อนตาย ว่าต้องให้เรารับไว้ ไม่งั้นพ่อจะนอนตายตาไม่หลับ”
เราแกะถุงเปิดดูข้างใน มีซองจดหมายทั้งหมด 10 ซอง
จ่าหน้าว่า…
คืนเงินเดือนที่ 1-2-3… ไปจนถึง คืนเงินเดือนที่ 10
ในแต่ละซอง ข้างในมีธนบัตรใบละ 1,000 บาท สิบใบ….ซองสุดท้าย มีข้อความว่า
ถึง…
หลานที่ไม่ใช่สายเลือด แต่ก็เป็นหลานที่ดีกับลุงเหลือเกิน ….. ลุงคืนเงินให้ตามที่เคยสัญญาขอบคุณที่ช่วยเหลือ เป็นธุระให้ ในทุก ๆ เรื่อง และ
เป็นเพื่อนคนแก่มาตลอด

…. ป้ามารอลุงแล้ว….. ลุงต้องไปก่อน.
อีก 2 วันถัดมาที่บ้านคุณลุง มีคนเข้ามาทำความสะอาด…..เราสังเกตุเห็นปฏิทินที่คุณลุงใช้ขีดฆ่าเพื่อนับวันรอลูก ๆ ถูกทิ้งอยู่ในถังขยะหน้าบ้าน
เดินไปที่ถังขยะหน้าบ้านลุง มองไปที่ประตู มีป้ายประกาศติดไว้
ขายบ้าน ด่วน !
เราไปเก็บปฏิทินมาทำความสะอาด …….นึกถึงภาพคนแก่ ที่หยิบดินสอขีดฆ่าตัวเลขบนปฏิทิน ด้วยอาการมือสั่นเทา ลูก ๆ คงไม่รู้หรอกว่า ภายใต้ปฏิทินเก่า ๆ ไร้ค่าใบนี้

….. มันซ่อนความห่วงหาอาลัยซ่อนความเงียบเหงา ว้าเหว่ ..ซ่อนความเจ็บปวดร้าวลึก ของคนแก่คนหนึ่งที่ต้องใช้ชีวิตอยู่อย่างโดดเดียวเพียง
ลำพังมานานกว่า 10 ปี
เราตั้งใจจะเก็บปฏิทินนี้ไว้ เพื่อเป็นที่ระลึก…ตลอดไป…
ขอให้บุญกุศล และคุณงามความดี ทั้งหลายทั้งปวง ที่คุณลุงได้สั่งสมมาตลอดชั่วชีวิต
จงนำพาดวงวิญญาณอันบริสุทธิ์ของคุณลุง ไปสู่สุคติในดินแดน อันสงบ ร่มเย็น ชั่วนิจนิรันดร์…..