10 #ต้นไม้ต้องห้าม ไม่ควรนำมาปลูกในบ้าน

บ้านที่รักของเรา ถ้าหากว่ามีมุมๆ หนึ่งเป็นมุมสีเขียว ให้เราได้รู้สึกผ่อนคลาย สบายอารมณ์ จะดีแค่ไหน ดังนั้นแล้วก็ลองมองหาต้นไม้มาปลูกประดับบ้าน หรือทำเป็นสวนเล็กๆ กันดีกว่าค่ะ พูดถึงเรื่องต้นไม้นั้น แม้ว่าต้นไม้ทุกชนิดจะให้สีสันสวยงานอย่างธรรมชาติไม่ต่างกันมาก แต่การเลือกพันธุ์ไม้ก็มีผลในทางฮวงจุ้ยเหมือนกัน และควรระวังหลีกเลี่ยงต้นไม้ที่มีชื่ออัปมงคล เพราะตามความเชื่อแล้ว อาจนำโชคร้ายมาสู่ผู้อยู่อาศัยได้ วันนี้จึงได้นำต้นไม้ที่มีชื่อไม่เป็นมงคล และไม่ควรปลูกไว้ภายในบ้าน มาฝากคนที่กำลังแต่งสวนกันค่ะ


1. ต้นรัก แม้ชื่อ “ต้นรัก” ฟังแล้วน่าจะมีความหมายไปในทิศทางที่ดี แต่ตามความเชื่อโบราณเชื่อว่า ต้นรักจะทำให้ความรักยุ่งยากขึ้น และกลายเป็นคนมากรักได้ และนอกจากนี้ ยางของต้นรักนั้น หากไปสัมผัสโดนเข้าอาจเป็นอันตรายต่อผิวหนังได้

2. ต้นมะละกอ ชื่อ “มะละกอ” ดูจะไม่เป็นมงคลนัก บางคนเชื่อว่ามะละกอ เหมือนกับการแตกออกเป็นกอ หรือ “ละ” จากเผ่าจากกอ ส่งผลให้คนภายในบ้านไม่มีความสุข เพราะลูกหลานจะแตกแยกออกไปเป็นกลุ่มๆ มีความคิดที่ขัดแย้งกัน ทะเลาะเบาะแว้งจนหาความสุขไม่ได้ แต่ถ้าต้องการจะปลูกไว้รับประทาน ควรปลูกไว้ริมรั้วนอกบ้าน
3. ต้นระกำ ถือว่าชื่อต้นระกำนั้น ไม่เป็นมงคลตั้งแต่โบราณมา เชื่อกันว่า หากปลูกต้นระกำไว้ในบ้าน จะทำให้ได้รับความชอกช้ำ ระกำใจ อยู่ตลอดเวลา
4. ต้นชวนชม มีความหมายทั้งดีและไม่ดี หากมองในด้านดี การปลูกต้นชวนชมเอาไว้ในบ้านจะส่งผลให้มีผู้คนมาชื่นชม นิยมยกย่อง กลายเป็นที่รักของคนทั่วไป แต่หากมองในแง่ร้าย ต้นชวนชมจะชักชวนให้คนมาเชยชม จึงไม่เหมาะที่จะนำมาปลูกภายในบ้าน โดยเฉพาะบ้านที่มีลูกสาววัยแรกรุ่น เพราะอาจจะเป็นการชักนำหนุ่มๆ ให้เข้ามาหาลูกสาวได้ เป็นการปูทางให้เกิดเรื่องเสื่อมเสียขึ้น นอกจากนี้ ยางของต้นชวนชม อาจจะเป็นอันตราย หากไปสัมผัส
โดนเข้า อาจเกิดอาการปวดแสบปวดร้อน
5. ต้นยาง ต้นยางนั้นเป็นต้นไม้ที่มีลำต้นสูงใหญ่ เกินไป ที่จะเอามาปลูกไว้ในบ้าน ถ้าเกิดลมแรง หรือพายุฝน อาจจะทำให้ “ต้นยาง” หักโค่นลงมาก่อให้เกิดความเสียหายแก่ตัวเรือน ทับบ้านพังพินาศก็เป็นได้ อีกทั้งคนไทยนิยมเอาไม้ยางมาทำเป็นโลงศพอีกด้วย จึงถือว่าเป็นอัปมงคล หรือเป็นลางไม่ดี เกิดความคิดในทางอกุศล จึงไม่ควรเอา “ต้น
ยาง” มาปลูกในบริเวณบ้าน
6. ต้นมะรุม เป็นต้นไม้ที่มาตั้งแต่โบราณ คนนิยมนำมาทำแกงส้ม แต่ชื่อของต้นมะรุมจะไปคล้องจองกับคำว่า “มะรุมมะตุ้ม” ซึ่งจะมีแต่เรื่องไม่ดีมารุมกระหน่ำเข้ามาจนอยู่ไม่เป็นสุข
7. ต้นดอกทอง ชื่อ “ต้นดอกทอง” ของพันธุ์ไม้นี้ ไม่เป็นสิริมงคล คนโบราณถือ หมายถึงความประพฤติการกระทำอันเลวร้ายที่ไม่เหมาะสมของหญิง มีความประพฤติเสี่ยมเสียทางเพศกับชายอื่นที่ไม่ใช่สามีของตนเอง เป็นลางไม่ดี ทำให้ครอบครัวเกิดความทะเลาะเบาะแว้งและมีปากเสียงกัน จนเกิดการหย่าร้าง 
 8. ต้นชบา แม้สีสันของดอกที่สวยสะดุดตา หากปลูกก็จะทำให้บ้านดูสวยงาม แต่ในสมัยโบราณ ไม่นิยมปลูกต้นชบาเอาไว้ในบริเวณบ้าน เพราะดอกชบานั้น มักถูกนำไปใช้ในเรื่องร้ายๆ อย่างเช่น นำดอกชบามาร้อยเป็นพวง แล้วนำไปสวมคอหญิง-ชาย ที่เป็นชู้ หรือลักลอบได้เสียกัน กลายเป็นสัญลักษณ์ของการเล่นชู้ รวมทั้งนำพวงมาลัยดอกชบาไปสวมคอนักโทษ ที่กำลังจะถูกประหารอีกด้วย จึงเชื่อกันว่ามันไม่ใช่ไม้ที่มงคลยิ่งนัก หากปลูกไว้ในบ้านอาจทำให้คนใน
ครอบครัวถูกคดีความต่างๆ ได้
9. ต้นโพธิ์ ต้นโพธิ์ไม่ใช่ต้นไม้อัปมงคล แต่ก็ไม่ควรนำมาปลูกในบ้าน เพราะเชื่อกันว่าต้นโพธิ์ เป็นต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์ ที่องค์สมเด็จพระพุทธสัมมาสัมพุทธจ้าได้มีพระชนม์ชีพพัวพันอยู่กับต้นโพธิ์ ตั้งแต่ประสูติ ตรัสรู้ และ ปรินิพาน จึงเหมาะสำหรับปลูกตามวัดหรือสถานที่ศักดิ์สิทธิ์มากกว่า อีกทั้งต้นไทรนั้นโตเร็วมาก สูงใหญ่มีรากไทรย้อยลงมาจากต้น และกิ่ง แล้วลุกลามไปเรื่อยๆ ชอนไซเข้าไปในพื้นดินได้ไกล เป็น 10 – 20 เมตร หรือมากว่า หากปลูกอยู่ในบริเวณบ้าน รากไทรก็จะแทรกเข้าไปใต้พื้นบ้านได้

10. ลั่นทม ความหมายของชื่อ “ลั่นทม” นั้นไม่ดีนัก เพราะบางคนไปนึกถึงความทุกข์ระทม บางท่านจะเห็นว่าต้นลั่นทม ปลูกไว้ตามวัด โรงเรียน สวนสาธารณะ แต่ไม่เคยเห็นมีคนเอามาปลูกไว้ตามบ้านเรือนเลย หรือเวลาปลูกไว้ในกระถางก็สวยดี และดอกลั่นทมก็สวย และมีหลายสี แต่ก็ยังมีคนทักว่า ไม่ดีไม่เป็นสิริมงคงคล เดี่ยวจะเกิดความทุกข์ระทม จมอยู่กับความทุกข์ตามความเชื่อโบราณ แต่ต่อมามีการเปลี่ยนชื่อต้นลั่นทม เป็นชื่อ “ลีลาวดี” กลายเป็นต้นไม้ยอดนิยมที่มีราคาแพง และนิยมเอามาจัดสวนในบ้านกัน

ปลูกต้นไม้ในบริเวณบ้าน ให้ความร่มรื่น สวยงาม อีกทั้งยังมีประโยชน์อีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็นการช่วยให้ร่มเงาแก่บ้าน ช่วยให้อากาศสดชื่น แถมยังลดมลพิษภายในบ้านได้อีกด้วย ใครที่กำลังมองหาต้นไม้มาปลูกและถือเรื่องมงคลตามความเชื่อโบราณ ก็ควรหลีกเลี่ยงต้นไม้เหล่านี้ด้วยนะคะ

เรียบเรียงเนื้อหาโดย : Kaijeaw.com